นายฟาร์ฮาน แฮก โฆษกของสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของ UN ไม่ได้ใช้ WhatsApp ในการติดต่อสื่อสาร เพราะไม่ใช่วิธีการที่ปลอดภัย โดยเขาแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญของ UN กล่าวหาว่า ซาอุดีอาระเบียใช้แพล็ตฟอร์มสื่อสารออนไลน์ดังกล่าวเพื่อแฮ็กข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของนายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของอเมซอนดอทคอม และเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ได้ใช้ WhatsApp ในการติดต่อสื่อสารกับมกุฏราชกุมารของซาอุฯ หรือกับผู้นำคนอื่นๆ ทั่วโลกหรือไม่ นายแฮกกล่าวว่า ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ UN ได้รับคำสั่งไม่ให้ใช้ WhatsApp ในการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากไม่มีความปลอดภัย ดังนั้น เขาจึงเชื่อว่านายกูเตอร์เรสไม่ได้ใช้แอปดังกล่าว
คณะผู้เชี่ยวชาญของ UN ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนในทันทีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮ็กข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของนายเบซอสในปี 2561
แถลงการณ์จากองค์การด้านสิทธิมนุษยชนของ UN ได้มุ่งเป้าไปที่การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ที่นายเบซอสอ้างว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์ โดยแฮ็กข้อมูลจำนวนมากจากโทรศัพท์มือถือของเขาด้วยการส่งไฟล์วิดีโอที่มีการฝังรหัสจากบัญชี WhatsApp ส่วนตัวของเจ้าชายบิน ซัลมาน
หลังจากที่ UN ออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าว WhatsApp ก็ได้ออกมาระบุว่า บริษัทให้บริการที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมสำหรับผู้ใช้บริการมากกว่า 1.5 พันล้านคน
นายคาร์ล วุง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ WhatsApp กล่าวว่า ข้อความส่วนตัวทุกๆ ข้อความได้รับการปกป้องด้วยการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ WhatsApp หรือบุคคลอื่นๆ เห็นข้อความสนทนา โดยเทคโนโลยีการเข้ารหัสซึ่ง WhatsApp พัฒนาขึ้นนั้น ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย และยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการติดต่อสื่อสารของคนทั่วโลก