นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียเตรียมใช้งบประมาณราว 1.35 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (926.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 10 ปีข้างหน้าเพื่อยกระดับการป้องกันทางไซเบอร์ หลังจากเผชิญการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้ง
นายมอร์ริสันกระบุในแถลงการณ์ว่า การให้ความสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลกลางคือการปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ซึ่งการโจมตีทางไซเบอร์เป็นอันตรายต่อสิ่งเหล่านั้น
นายมอร์ริสันแสดงความเห็นดังกล่าวเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากออสเตรเลียเปิดเผยว่า มีองค์กรระดับรัฐได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์กับออสเตรเลียในทุกระดับ ตั้งแต่รัฐบาล ตำรวจ ผู้ให้บริการที่จำเป็น และผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ
ลินดา เรย์โนลด์ส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียที่จะนำไปลงทุนในขีดความสามารถด้านการทำสงครามไซเบอร์ และจะรวมงบ 470 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย 500 คนในหน่วยงาน Australian Signals Directorate (ASD) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองทางด้านไซเบอร์ของออสเตรเลีย
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ออสเตรเลียเชื่อว่า จีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทางไซเบอร์หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงเมื่อปีที่แล้วที่มีโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัฐสภาออสเตรเลีย และพรรคการเมืองใหญ่ที่สุด 3 พรรค ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม จีนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว