สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาบริษัทของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล อิงค์ว่า บริษัทของสหรัฐจะยังคงสามารถทำธุรกิจกับวีแชท (WeChat) ในประเทศจีนต่อไปได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ (21 ส.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวหลายราย โดยรายงานข่าวนี้มีขึ้นในเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อห้ามประชาชนและบริษัทสหรัฐไม่ให้ทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทเทนเซ็นต์ (Tencent) ซึ่งเป็นเจ้าของวีแชท แอปพลิเคชันส่งข้อความ รวมถึงไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นเจ้าของติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้น โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า จีนคัดค้านอย่างแข็งกร้าวกับการสั่งแบนสองบริษัทจีนดังกล่าว โดยระบุว่า การดำเนินการของสหรัฐเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง และยืนยันที่จะปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และผลประโยชน์ของธุรกิจจีน
เชา ชิงเสี่ยว ผู้ก่อตั้ง Red Gate Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนอิสระที่มุ่งเน้นลงทุนในตลาดตราสารทุนของจีนเปิดเผยว่า หากสหรัฐบังคับให้แอปเปิลถอดแอปพลิเคชันวีแชทออกจากแอปสโตร์ (App Store) ในจีน แอปเปิลอาจจะเสียหายอย่างหนัก
เธอกล่าวว่า "ถ้าแอปเปิลถอดวีแชทออกจากแอปสโตร์ ก็จะเกิดเรื่องใหญ่แน่"
ส่วนรายงานของวีแชทระบุว่า มีชาวจีนหลายร้อยล้านคนใช้แอปวีแชททุกวันผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อส่งข้อความ โพสต์ภาพ เรียกแท็กซี่ หรือสั่งอาหาร และมีธุรกิจกว่า 50 ล้านรายเป็นผู้ใช้งานวีแชท เพย์ (WeChat Pay) นอกจากนี้ วีแชทยังเป็นหนึ่งในสองแพลตฟอร์มชำระเงินของเอกชนที่ใหญ่สุดในจีน
เชากล่าวว่า ถ้าแอปเปิลถอดวีแชทออกจากแอปสโตร์ จำนวนชาวจีนที่ต้องการซื้อไอโฟนจะลดลงอย่างมหาศาล และความเสียหายที่เกิดกับแอปเปิลจะรุนแรงกว่าที่เกิดกับเทนเซ็นต์อย่างมาก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดขายของแอปเปิลในจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และฮ่องกง อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2562 ซึ่งคิดเป็น 17% ของยอดขายทั่วโลก