บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) ประกาศความร่วมมือกับบริษัท Plug and Play บริษัทผู้พัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลก เพื่อสรรหาสตาร์ทอัพในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ด้วยเป้าหมายที่จะยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ พร้อมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตามแนวคิด PTT หรือ Powering Thailand’s Transformation" พร้อมนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล
ปตท. มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านองค์กรแห่งนวัตกรรม โดยบริษัทเห็นความสำคัญของการสร้าง Innovation Ecosystem ในระดับนานาชาติ ภายใต้กลยุทธ์ Partnership and Platform ที่เน้นการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างพันธมิตร และพัฒนาธุรกิจของ ปตท. ให้มีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มมากกว่าเป็นแค่ผู้ผลิตสินค้าและจำหน่าย โดยดึงดูดพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อนคุณค่าธุรกิจไปสู่มือผู้บริโภค
ปตท. จึงได้ร่วมกับบริษัท Accelerator ชั้นนำอย่าง Plug and Play ที่มีผลงานลงทุนในเทคสตาร์ทอัพชั้นนำ เช่น Paypal Dropbox และ Lending Club มาแล้ว เพื่อการเข้าถึงเครือข่ายบริษัทด้านเทคโนโลยีซึ่งรวมไปถึงองค์กรใหญ่และสตาร์ทอัพทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา (ซิลิคอนแวลลีย์) จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ด้วยการติดต่อกับบริษัทต่างๆ โดยตรง การเพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และการจัด Workshop ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพในเครือ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการส่งเสริมแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ปตท. อีกด้วย
นอกจากนี้ ปตท. ยังสามารถศึกษาและนำข้อมูลด้านเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้คิดค้นและพัฒนาจากหลากหลายบริษัทสตาร์ทอัพไปต่อยอดและสร้างธุรกิจ S-Curve ให้กับ ปตท. ภายใต้การบริหารจัดการโดยหน่วยงาน ExpresSo ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้าน Innovation ของ ปตท. ผ่านกลยุทธ์ 3 New ซึ่งประกอบไปด้วย
1. New Energy : สร้างธุรกิจด้านพลังงานใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายทางความยั่งยืน และความมั่นคงทางพลังงาน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปรับปรุงประสิทธิภาพของแผงเซลล์แสงอาทิตย์
2. New Mobility : เปลี่ยนโฉมการเดินทางในประเทศไทย รวมไปถึงการขนส่ง ให้มีความสะดวกสบาย และลดมลภาวะ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า
3. New Industry : ผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เข้าสู่ Industry 4.0 เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม และรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงงานผลิต
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาศักยภาพกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการเรียนรู้ด้วยวิธีการของ Plug and Play และบริษัทชั้นนำทั่วโลก เพื่อขับเคลื่อนให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมไปสู่เวทีโลก พร้อมนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล"
ด้านนาย Shawn Dehpanah รองประธาน Plug and Play ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ปตท. ได้ร่วมมือกับ Plug and Play ภายใต้โครงการสมาร์ทซิตี้ ซึ่งจะมีธุรกิจแนวหน้าจากอุตสาหกรรมต่างๆ มารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงานและความยั่งยืน อสังหาริมทรัพย์ การขับเคลื่อน IoT และสุขภาพดิจิทัล ที่พร้อมจะช่วยตอบโจทย์การแก้ปัญหาต่างๆ ตามความต้องการของ ปตท. ไม่ว่าจะเป็นการสร้างธุรกิจด้านพลังงานใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน การขับเคลื่อนด้านการเดินทางในระบบขนส่งรูปแบบใหม่ และการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้เข้าสู่ Industry 4.0"
ทั้งนี้ Plug and Play เป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมระดับโลกโดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซิลิคอนแวลลีย์ และมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่สิงคโปร์ ปัจจุบันทำธุรกิจครอบคลุมในพื้นที่กว่า 30 แห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย