บริษัทสเปซเอ็กซ์ ผู้ผลิตยานอวกาศเอกชนของสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการส่งจรวดพร้อมนักบินอวกาศ 4 คนขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) ขึ้นอยู่ห้วงอวกาศในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ โดยแคปซูลอวกาศ Dragon ที่อยู่บนหัวจรวดนั้นมีกำหนดการเดินทางถึงสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ และจะประจำการอยู่ที่สถานีอวกาศจนถึงฤดูใบไม้ผลิ
รายงานข่าวระบุว่า จรวดที่ถูกส่งนั้นมีชื่อว่า Falcon โดยสเปซเอ็กซ์ได้ปล่อยขึ้นฟ้าจากศูนย์อวกาศเคนเนดี ในรัฐฟลอริดา พร้อมนักบินอวกาศ 4 คน เป็นชาวอเมริกัน 3 คน และชาวญี่ปุ่น 1 คน ซึ่งเป็นทีมนักบินอวกาศทีมที่ 2 ที่สเปซเอ็กซ์ได้ส่งขึ้นอวกาศ
ด้านนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ไม่ได้อยู่เป็นสักขีพยานที่จุดปล่อยจรวด เนื่องจากเขามีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก และทางนาซากำหนดไว้ว่าผู้ที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกนั้นต้องกักตัว ซึ่งทำให้นายมัสก์ต้องชมการปล่อยจรวดจากที่อื่น
ส่วนนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นประธานสภาอวกาศแห่งชาติ ได้เป็นสักขีพยานการปล่อยจรวดด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน นาซาและสเปซเอ็กซ์ประสบความสำเร็จในการส่งจรวดพร้อมนักบินอวกาศ 2 คนของนาซาขึ้นอยู่ห้วงอวกาศ ซี่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่มีการส่งจรวดพร้อมลูกเรือจากแผ่นดินสหรัฐขึ้นสู่อวกาศ นับตั้งแต่ภารกิจ Space Shuttle ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2554
ยานอวกาศของสเปซเอ็กซ์ลำนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นยานอวกาศเชิงพาณิชย์ลำแรกที่นำมนุษย์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งนาซาระบุว่า ภารกิจครั้งนี้จะเป็นการบุกเบิกยุคใหม่แห่งการให้บริการเที่ยวบินอวกาศเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีมนุษย์จำนวนมากขึ้นสามารถเดินทางไปยังอวกาศได้ในราคาที่ถูกลง
อนึ่ง นับตั้งแต่โครงการ Space Shuttle ของนาซาได้ยุติลงในปี 2554 หลังจากที่ดำเนินการมา 30 ปี สหรัฐได้หันไปใช้บริการยานอวกาศ Soyuz ของรัสเซีย เพื่อนำนักบินอวกาศของสหรัฐขึ้นไปยังสถานี ISS