สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานโดยอ้างสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขายแบรนด์ P และ Mate ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมของบริษัท
รายงานข่าวดังกล่าวมาจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนาม ซึ่งให้ข้อมูลว่า หัวเว่ยได้เจรจามาหลายเดือนแล้ว โดยเจรจากับกลุ่มบริษัทด้านการลงทุนที่มีรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้เป็นผู้สนับสนุน
อย่างไรก็ดี โฆษกของหัวเว่ยได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยชี้แจงว่าเป็นเพียงข่าวลือ และหัวเว่ยไม่มีแผนการเช่นนั้น ส่วนทางด้านรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่าทางการเซี่ยงไฮ้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ว่านี้
รายงานข่าวระบุว่า การที่หัวเว่ยกำลังหาทางขายแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์นี้เป็นเพราะกังวลว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะยังคงแข็งกร้าวกับหัวเว่ยต่อไป แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ก็เปิดเผยด้วยว่า หัวเว่ยอาจตัดสินใจไม่ขายแบรนด์ดังกล่าวในท้ายที่สุดก็ได้
การที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปอย่างตึงเครียดมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้สหรัฐพยายามกดดันให้รัฐบาลทั่วโลกบีบหัวเว่ย โดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ และเชื่อว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกใช้เพื่อทำการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ขณะที่หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในเดือนพ.ค. 2562 สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยและบริษัทในเครือ และสั่งให้บริษัทของสหรัฐที่ต้องการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำเหล่านั้น จะต้องขอใบอนุญาตจากทางการสหรัฐ
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้แจ้งเตือนบรรดาซัพพลายเออร์ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยได้แจ้งให้ทราบว่าทางการสหรัฐกำลังจะยกเลิกใบอนุญาตที่เคยเปิดทางให้บริษัทเหล่านี้ทำงานกับหัวเว่ยได้ และทางกระทรวงจะไม่รับคำขอใบอนุญาตดังกล่าวเพิ่มเติมหลังจากนี้ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ซัพพลายเออร์ของหัวเว่ยที่ได้รับการแจ้งเตือนนั้นมีชื่อของบริษัท อินเทล คอร์ป รวมอยู่ด้วย ส่วนซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ของหัวเว่ยยังรวมถึงซัมซุง โตเกียวอิเล็กทรอน แอดแวนเทสต์ และเลเซอร์เทค