รัฐบาลจีนได้สั่งถอด UC Browser ซึ่งเป็นธุรกิจเว็บบราวเซอร์ในเครือของบริษัทอาลีบาบาออกจากแอปสโตร์ขนาดใหญ่ที่สุดหลายแห่งของจีน หลังจากสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนกล่าวหาว่า UC Browser ทำการโฆษณาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาต และมีการโฆษณาเกินจริง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
ข้อกล่าวหาของ CCTV ยังระบุด้วยว่า UC Browser เอื้อประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากเมื่อผู้ใช้งานทำการสืบค้นชื่อโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนด้วยบราวเซอร์นี้ ก็จะปรากฎชื่อของโรงพยาบาลเอกชนขึ้นมา ซึ่งก็จะส่งผลให้บรรดาผู้ป่วยหันไปสืบค้นข้อมูลบนเว็บของโรงพยาบาลเอกชนแทนโรงพยาบาลของรัฐ
ทั้งนี้ แอปสโตร์ระบบแอนดรอยด์ที่ถอด UC Browser ออกจากแอปนั้นรวมถึงแอปสโตร์ของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ และของเสียวหมี่
ด้านเจ้าหน้าที่ของ UC Browser ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ดังกล่าว พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดตั้งทีมงานเพื่อตรวจสอบและแก้ข้อกล่าวหา
การสั่งลบ UC Browser ออกจากแอปสโตร์ของจีนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเตือนว่า รัฐบาลจีนจะติดตามความเคลื่อนไหวของบรรดาบริษัทแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมากและมีอิทธิพลต่อตลาด โดยคำเตือนดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า กระบวนการควบคุมอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตของจีนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนรายงานว่า นายสีเป็นประธานจัดการประชุมที่ปรึกษาด้านการเงินและคณะกรรมการประสานงานของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทอินเทอร์เน็ตอย่างใกล้ชิด, กวาดล้างพฤติกรรมการผูกขาดตลาด, ส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรม และป้องกันการขยายทุนอย่างไร้ระเบียบ
นอกจากนี้ นายสียังสั่งการว่า บริษัทอินเทอร์เน็ตจะต้องปรับปรุงความปลอดภัยด้านข้อมูล และธุรกรรมด้านการเงินของบริษัทอินเตอร์เน็ตจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐบาลจีน
"บริษัทแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตบางรายกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่ได้มาตรฐาน และสร้างความเสี่ยงอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น รัฐบาลจีนจึงจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อกำกับดูแลบริษัทแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต เพื่อที่จะปิดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้" CCTV เปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าวซึ่งมีนายสีเป็นประธาน
การแสดงความเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวของปธน.สีและคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ในครั้งนี้กำลังสะท้อนว่า จีนกำลังขยายขอบข่ายการควบคุมบริษัทเอกชนที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจจีน ดังจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลจีนพุ่งเป้าสกัดอิทธิพลของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งของนายแจ็ก หม่า และแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคในเครือของอาลีบาบา