นายเจอโรม เพเซนที รองประธานฝ่ายปัญญาประดิษฐ์ของเฟซบุ๊กระบุในบล็อกโพสต์ว่า "หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ยังคงอยู่ระหว่างการกำหนดกฎเกณฑ์การใช้งานที่ชัดเจน ท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าวนี้เอง เราจึงเชื่อว่าสมควรจำกัดการใช้งานระบบจดจำใบหน้าให้เหลือเพียงไม่กี่กรณี"
บริษัทเฟซบุ๊ก ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเมตา แพลตฟอร์ม อิงค์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กทุกวันนั้นใช้ระบบจดจำใบหน้า และเฟซบุ๊กจะปิดระบบ "เทมเพลตจดจำใบหน้า" ของผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านราย
โฆษกเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ทางบริษัทคาดว่าจะถอดระบบดังกล่าวออกทั่วโลกได้เสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธ.ค.นี้
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กตัดสินใจถอดระบบจดจำใบหน้าออก หลังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ว่า เทคโนโลยีดังกล่าวอาจระบุคนผิดว่าเป็นอาชญากร หรือเข้าข้างคนผิวขาวมากกว่าคนผิวสี