รายงานจากเชนอนาไลซิส (Chainalysis) บริษัทข้อมูลและซอฟต์แวร์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ต้องจ่ายค่าไถ่จากการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีรวมมูลค่าราว 620 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยแฮกเกอร์จากรัสเซียสร้างความเสียหายมากที่สุด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับบรรดาแฮกเกอร์ที่ใช้แรมซัมแวร์โจมตีนั้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยในปี 2561 มูลค่าจากความเสียหายดังกล่าวอยู่ที่ 39 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นแตะ 152 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 และ 692 ล้านดอลลาร์ในปี 2563
คอนตี (Conti) กลุ่มแฮกเกอร์ชาวรัสเซียได้รับเงินไปกว่า 180 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยกลุ่มดังกล่าวได้แสดงท่าทีสนับสนุนการที่รัสเซียรุกรานยูเครน และได้โจมตียูเครนเพื่อหวังทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ส่วนกลุ่มดาร์กไซด์ (DarkSide) ซึ่งทำการโจมตีท่อส่งน้ำมันโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ในสหรัฐเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจนเป็นข่าวดัง ก็มียอดการโจมตีในระดับสูงด้วยเช่นกัน
อนึ่ง รูปแบบการโจมตีโดยใช้แรนซัมแวร์นั้นส่วนมากมักแฝงอยู่ในอีเมลที่มีไวรัส ซึ่งแฮกเกอร์จะขู่ให้บริษัทต่าง ๆ จ่ายเงินเพื่อกู้ข้อมูลกลับมา โดยมักเรียกค่าไถ่เป็นสกุลเงินคริปโทฯ เพื่อให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของเส้นทางการเงินได้ยากขึ้น