นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา อิงค์ เสนอไอเดียในการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน ด้วยการเปลี่ยนสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ให้เป็นที่พักพิงแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก
นายมัสก์ได้เปิดโพลสำรวจความคิดเห็นจากบรรดาผู้ติดตามทวิตเตอร์ของเขากว่า 81 ล้านคนเมื่อวันเสาร์ (9 เม.ย.) ว่า ควรเปลี่ยนอาคารสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ให้เป็นที่พักคนไร้บ้านหรือไม่ ซึ่งมีผู้มาร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 1 ล้านคนในเวลาเพียงไม่ถึง 1 วัน โดย 90% ของผู้ตอบนั้นต่างเห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าว
นอกจากนี้ นายมัสก์กล่าวว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับแนวคิดที่ว่านี้ ถึงแม้บ่อยครั้งเขาจะชอบโพสต์ถามอะไรที่ไม่ได้คิดจริงจังก็ตาม
ด้านนายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอนดอทคอม ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดของนายมัสก์ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของทวิตเตอร์ เนื่องจากจำนวนพนักงานที่เข้าออฟฟิศในซานฟรานซิสโกช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีน้อยมาก
นายเบซอสเคยทวีตแชร์บทความจากเว็บไซต์กรีกไวร์ (GeekWire) ที่เขียนขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 เกี่ยวกับที่พักพิงคนไร้บ้านในอาคารสูง 8 ชั้นของแอมะซอน ซึ่งอยู่ติดกับอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทในซีแอตเทิล พร้อมกล่าวว่า ไอเดียริเริ่มดังกล่าวให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ อีกทั้งยังเอื้ออำนวยต่อพนักงานที่อยากเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือด้วย
นอกจากนี้ นายเบซอสยังเสนอให้เปลี่ยนพื้นที่บางส่วนในสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ให้เป็นที่พักพิงแก่คนไร้บ้าน โดยที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดของบริษัท ซึ่งนายมัสก์ก็เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว พร้อมชมว่าเป็น "ไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก"
ข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า นายมัสก์ได้ถือครองหุ้นในบริษัททวิตเตอร์จำนวน 73,486,938 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยมีมูลค่าราว 2.89 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นายมัสก์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของทวิตเตอร์
ทั้งนี้ นายมัสก์จะเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ และจะสิ้นสุดวาระในปี 2567