การ์ทเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลก เปิดเผยในรายงานว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์พีซีมีแนวโน้มลดลงในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ประกอบกับปัญหาเงินเฟ้อซึ่งทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายลดลง
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนไปยังตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างจีน จะหดตัวลง 18% เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อันเข้มงวดของจีนทำให้ความต้องการสินค้าเหล่านี้ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ คาดว่ายอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง 7% โดยได้รับแรงกดดันจากปัญหาด้านซัพพลายเชนและวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าเหล่านี้ปรับตัวลดลง
ส่วนยอดขายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกคาดว่าจะปรับตัวลดลง 9.5% ในปีนี้
รณชีต อัทวาล นักวิเคราะห์ระดับอาวุโสจากการ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า ปัญหาทางภูมิศาสตร์การเมือง เงินเฟ้อ ความผันผวนของค่าเงิน และปัญหาซัพพลายเชน ทำให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีความต้องการสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ลดลง และคาดว่าจะกระทบตลาดคอมพิวเตอร์รุนแรงที่สุดในปีนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การคาดการณ์ของการ์ทเนอร์สอดคล้องกับความคิดเห็นของหลาย ๆ บริษัทในอุตสาหกรรม โดยบริษัทแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตลาดคอมพิวเตอร์พีซีมีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากขยายตัวอย่างแข็งแกร่งมาก ๆ มา 2 ปี
ทั้งนี้ ความต้องการคอมพิวเตอร์พีซีและสมาร์ตโฟนที่แผ่วลง อาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตชิปอย่างอินวิเดีย ไปจนถึงบริษัทอุปกรณ์ไอทียักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิลและไมโครซอฟท์ ซึ่งเตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาสสองในเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้