รัฐบาลไต้หวันกำลังพิจารณาสั่งปรับบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ เป็นเงินราว 835,600 ดอลลาร์ จากการร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัทผลิตชิปของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐบาล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟ็อกซ์คอนน์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้เข้าถือหุ้นในบริษัท ชิงหัว ยูนิกรุ๊ป (Tsinghua Unigroup) ซึ่งทำธุรกิจผลิตชิป วงเงิน 5.38 พันล้านหยวน (796.97 ล้านดอลลาร์) โดยเป็นการลงทุนผ่านบริษัทในเครือ
แหล่งข่าวยังระบุว่า ฟ็อกซ์คอนน์ไม่ได้ขอนุญาตจากรัฐบาลไต้หวันก่อนที่จะลงทุนดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่มองว่า เป็นการละเมิดกฎหมายด้านการกำกับดูแลความสัมพันธ์กับจีน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาว่า จะปรับฟ็อกซ์คอนน์ตามมูลค่าสูงสุดของเงินที่ลงทุนในจีนหรือไม่
นอกจากนี้ การลงทุนของฟ็อกซ์คอนน์ยังเกิดขึ้นในขณะที่ไต้หวันกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของจีน ซึ่งเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้เสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้จีนโจรกรรมเทคโนโลยีชิปของไต้หวัน
ทั้งนี้ กฎหมายของไต้หวันระบุว่า รัฐบาลมีอำนาจยับยั้งการลงทุนในจีนได้ โดยพิจารณาจากความมั่นคงของชาติและการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยผู้ที่ฝ่าฝืนอาจถูกปรับหลายครั้งไปจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง