สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ตัดสินใจระงับแผนเพิ่มการผลิต ไอโฟน (iPhone) รุ่นใหม่ในปีนี้ หลังจากอุปสงค์ไม่เพิ่มขึ้นตามที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า แอปเปิลได้แจ้งให้บรรดาซัพพลายเออร์ระงับแผนเพิ่มการประกอบผลิตภัณฑ์ตระกูลไอโฟน 14 มากถึง 6 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยแอปเปิลเปลี่ยนใจมาผลิตโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้เพียง 90 ล้านเครื่องในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งใกล้เคียงกับระดับของปีก่อนหน้า และสอดคล้องกับการคาดการณ์แรกของแอปเปิลในฤดูร้อนนี้
แหล่งข่าวบางรายระบุว่า ความต้องการโทรศัพท์มือถือรุ่นไอโฟน 14 โปร (iPhone 14 Pro) นั้น แข็งแกร่งกว่ารุ่นปกติ แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม โดยซัพพลายเออร์ายหนึ่งต้องเปลี่ยนจากการผลิตไอโฟนรุ่นราคาย่อมเยาเป็นรุ่นที่มีราคาแพงแทน
อย่างไรก็ตาม โฆษกแอปเปิลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว
ย้อนไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเปิดตัวไอโฟน 14 แอปเปิลได้เพิ่มคาดการณ์ยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นดังกล่าว โดยซัพพลายเออร์บางรายได้เริ่มเตรียมความพร้อมรองรับคำสั่งซื้อที่อาจเพิ่มขึ้น 7%
ขณะที่ บริษัทเจฟฟรีส์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.ว่า จีน ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก ตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจซบเซาจนส่งผลกระทบต่อบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือภายในประเทศและยอดขายไอโฟน โดยยอดซื้อโทรศัพท์มือถือตระกูลไอโฟน 14 ในช่วง 3 วันแรกของการวางจำหน่ายในจีน ปรับตัวลดลง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ด้านไอดีซี ซึ่งเป็นผู้ติดตามตลาด ระบุว่า อีกปัจจัยที่กดดันอุปสงค์โทรศัพท์มือถือทั่วโลกคือเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงความหวั่นวิตกเรื่องเศรษฐกิจถดถอย และภาวะติดขัดที่เกิดจากสงครามในยูเครน โดยตลาดสมาร์ตโฟนมีแนวโน้มหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ สู่ระดับ 1.27 พันล้านเครื่อง
ความสำเร็จของโทรศัพท์มือถือไอโฟนหมายถึงความสำเร็จของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในวงกว้าง เนื่องจากซัพพลายเออร์ ซึ่งรวมถึง บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) และหงไห่ พรีซิชั่น อินดันทรีย์ โค ต่างก็พึ่งพายอดขายไอโฟน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในฐานะปัจจัยขับเคลื่อนรายได้หลัก