นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่นยกระดับความร่วมมือ เนื่องจากชิปมีความสำคัญมากขึ้นในการรับประกันความมั่นคงและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นางแฮร์ริสกล่าวระหว่างประชุมกับคณะผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นที่บ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงโตเกียวว่า "ไม่มีประเทศใดประเทศเดียวที่สามารถเติมเต็มความต้องการชิปทั่วโลกได้ ญี่ปุ่นและสหรัฐมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและลงทุนในด้านนวัตกรรมแห่งอนาคต"
นางแฮร์ริสอธิบายรายละเอียดของกฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ (CHIPS and Science Act) ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามเป็นกฎหมายเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการลงทุนในด้านการวิจัยและผลิตชิปในสหรัฐ
ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำหลายสิบแห่ง รวมถึงบริษัทโตเกียว อิเล็กทรอน จำกัด, นิคอน คอร์ป และบริษัทฟูจิตสึ จำกัด ต่างเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวที่มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่นางแฮร์ริสเป็นตัวแทนสหรัฐเข้าร่วมรัฐพิธีศพของนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐและญี่ปุ่นกำลังเผชิญความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมานี้ซึ่งรุนแรงขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก