บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี อันเนื่องมาจากแผนปลดพนักงานครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 3,700 คนของนายอีลอน มัสก์ โดยพนักงานต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ทวิตเตอร์ดำเนินการปลดพนักงานโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามระยะเวลาที่บัญญัติเอาไว้ในกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐและรัฐแคลิฟอร์เนีย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อทวิตเตอร์นั้น ถูกยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางเมืองซานฟรานซิสโกในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
โจทก์ได้ขอให้ศาลออกคำสั่งให้ทวิตเตอร์ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการแจ้งเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการปรับเปลี่ยนแรงงาน และห้ามทวิเตอร์ชักชวนให้พนักงานลงชื่อในเอกสารที่อาจทำให้พวกเขาเสียสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินคดี
"เราฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่า พนักงานทุกคนจะตระหนักได้ว่าไม่ควรลงชื่อสละสิทธิ์ และรู้ว่าพวกเขามีช่องทางในการติดตามสิทธิของตนเอง" นางแชนนอน ลิส-ริออร์แดน ทนายความผู้ยื่นคำฟ้องเมื่อวานนี้กล่าว
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ระบุในอีเมลที่ส่งถึงพนักงานว่า บริษัทวางแผนปลดพนักงานในวันนี้ (4 พ.ย.) โดยทวิตเตอร์จะทำการแจ้งพนักงานภายในเวลา 23.00 น.ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า พวกเขาจะถูกปลดออกจากบริษัทหรือไม่
ก่อนหน้านี้ นายมัสก์ได้ออกมาประกาศว่าจะลดต้นทุนการดำเนินงานของทวิตเตอร์ หลังจากเข้าซื้อกิจการผ่านข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
กฎหมายว่าด้วยการแจ้งเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการปรับเปลี่ยนแรงงาน (Worker Adjustment and Retraining Notification Act) ของรัฐบาลกลางสหรัฐนั้น ห้ามมิให้บริษัทขนาดใหญ่ดำเนินการปลดพนักงานจำนวนมากโดยไม่แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน
อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว
อนึ่ง นางลิสริออร์แดนได้ยื่นฟ้องบริษัทเทสลา อิงค์มาแล้วในคดีลักษณะเดียวกันกับทวิตเตอร์เมื่อเดือนมิ.ย. หลังจากที่เทสลาของนายมัสก์ได้สั่งปลดพนักงานประมาณ 10%