ญี่ปุ่นเตรียมทุ่มเม็ดเงินถึง 7 หมื่นล้านเยน (500 ล้านดอลลาร์) เพื่อลงทุนในบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ ซึ่งนำโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นอย่างโซนี่ กรุ๊ป คอร์ป และเอ็นอีซี คอร์ป โดยตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมญี่ปุ่นให้กลายเป็นผู้นำในการผลิตชิปขั้นสูง
นายยาซูโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า "เซมิคอนดักเตอร์จะเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อุตสาหกรรมดิจิทัล และการดูแลสุขภาพ"
"ด้วยความร่วมมือกับสถาบันวิจัยและอุตสาหกรรมของต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐนั้น เราต้องการที่จะเสริมความแกร่งพื้นฐานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่น และความสามารถในการแข่งขันผ่านความพยายามร่วมกันระหว่างนักวิชาการและอุตสาหกรรมในประเทศ"
นอกจากนี้ นายนิชิมูระยังกล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นมีแผนการที่จะก่อตั้งองค์กรวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในชื่อ ศูนย์เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ (Leading-edge Semiconductor Technology Center หรือ LSTC) ภายในสิ้นปีนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า LSTC มุ่งเป้าที่จะจัดหาแพลตฟอร์มการวิจัยและพัฒนาในความร่วมมือระหว่างศูนย์เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติสหรัฐ (U.S. National Semiconductor Technology Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ (CHIPS and Science Act) รวมถึงสถาบันอื่น ๆ ของประเทศต่าง ๆ ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน