นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์, เทสลา และทวิตเตอร์เปิดเผยว่า แอปเปิ้ล อิงค์ได้ขู่ที่จะถอดทวิตเตอร์ออกจากแอปสโตร์โดยไม่ระบุสาเหตุ พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่า แอปเปิ้ลได้ยุติการโฆษณาบนทวิตเตอร์แล้ว
นอกจากนี้ นายมัสก์ยังระบุด้วยว่า แอปเปิ้ลได้กดดันให้ทวิตเตอร์ควบคุมคอนเทนต์ให้ดีขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการดังกล่าว หากเกิดขึ้นจริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เนื่องจากแอปเปิ้ลได้บังคับใช้กฎระเบียบอยู่เป็นประจำ และก่อนหน้านี้ก็ได้ถอดบางแอปออกจากแอปสโตร์มาแล้ว เช่น แก็บ (Gab) และพาร์เลอร์ (Parler)
อย่างไรก็ตาม ทางแอปเปิ้ลยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวนี้
พาร์เลอร์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสนทนาซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มอนุรักษ์นิยมในสหรัฐนั้น ได้ถูกนำกลับเข้าสู่แอปสโตร์ในปี 2564 หลังจากที่ทำการปรับปรุงและกลั่นกรองเนื้อหาให้ดีขึ้น
นายมัสก์ทวีตข้อความว่า "แอปเปิ้ลได้หยุดลงโฆษณาส่วนใหญ่กับทวิตเตอร์แล้ว นี่พวกเขาเกลียดเสรีภาพด้านการพูดในอเมริกาอย่างนั้นหรือ?" ก่อนจะแท็กถึงนายทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ พร้อมถามว่า "มันเกิดอะไรขึ้น?"
แพธแมติกส์ (Pathmatics) บริษัทวัดมูลค่าโฆษณาระบุว่า แอปเปิ้ลใช้เม็ดเงินโฆษณากับทวิตเตอร์ประมาณ 131,600 ดอลลาร์ในระหว่างวันที่ 10-16 พ.ย. ลดลงจากระดับ 220,800 ดอลลาร์ในช่วงวันที่ 16-22 ต.ค. ซึ่งเป็นสัปดาห์ก่อนนายมัสก์บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อทวิตเตอร์