นายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งอาณาจักรคริปโทเคอร์เรนซีเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ออกโรงปฏิเสธเรื่องพยายามฉ้อโกงเงินลูกค้า แต่ยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดมากมายขึ้นที่บริษัท
"ผมทำเรื่องผิดพลาดเอาไว้มากมาย มีหลายเรื่องที่ผมยอมแลกได้ทุกอย่างเพื่อย้อนกลับไปแก้ไข แต่ผมไม่เคยเลยที่จะคิดฉ้อโกงเงินใคร" นายแบงค์แมน-ฟรีด วัย 30 ปีกล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดดีลบุ๊ก ซัมมิต (DealBook Summit) ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ผ่านทางวิดีโอลิงก์จากประเทศบาฮามาสเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.)
ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ของนายแบงค์แมน-ฟรีดในคราวนี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบร้ายแรงที่เกิดจากการล่มสลายของเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทฯ และอลาเมดา รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิงในเครือ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หนึ่งในคำถามสำคัญคือเงิน 8 พันล้านดอลลาร์หายไปจากบัญชีงบดุลของเอฟทีเอ็กซ์ได้อย่างไร และเอฟทีเอ็กซ์นำเงินทุนของลูกค้าไปใช้ในทางมิชอบจริงหรือไม่ โดยกระแสข่าวเรื่องเอฟทีเอ็กซ์นำเงินลูกค้าไปให้อลาเมดายืมนั้นก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
นายแบงค์แมน-ฟรีดกล่าวต่อที่ประชุมว่า เขาไม่รู้เรื่องการนำเงินทุนมาปะปนกันมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็ระบุว่า เอฟทีเอ็กซ์และอลาเมดานั้นมีความเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เคยตั้งใจเอาไว้อย่างมาก และเขาล้มเหลวในการให้ความใส่ใจต่อสถานะกำไรของอลาเมดา โดยอธิบายว่าธุรกิจมีขนาดใหญ่เกินไป
นอกจากนี้ นายแบงค์แมน-ฟรีดกล่าวด้วยว่า เขาไม่ได้เป็นผู้ดูแลอลาเมดา พร้อมระบุเสริมว่า เราวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ แต่ไม่มีใครรับผิดชอบด้านความเสี่ยงของเอฟทีเอ็กซ์ และอธิบายว่า การขาดการดูแลด้านความเสี่ยงและความขัดแย้งถือเป็นเรื่องผิดพลาด