"อีลอน มัสก์" ตั้งโพลให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์โหวตว่าเขาควรทิ้งเก้าอี้ซีอีโอหรือไม่

นายอีลอน มัสก์ ได้ตั้งโพลสำรวจบนทวิตเตอร์ เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาผู้ใช้งานทวิตเตอร์เข้าไปโหวตแสดงความคิดเห็นว่า เขาควรลงจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์หรือไม่

นายมัสก์ ซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์และเทสลา อิงค์ ได้ให้คำมั่นผ่านทางทวิตเตอร์ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) ว่า เขายินดีที่จะทำตามผลลัพธ์ของการโหวตครั้งนี้ โดยนับจนถึงขณะนี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์กว่า 7.4 ล้านคนเข้าร่วมโหวต โดยในจำนวนนี้มี 57% ตอบว่านายมัสก์ควรลงจากตำแหน่ง ขณะที่เทรนด์ทวิตเตอร์ 3 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐนั้น รวมถึงข้อความที่ว่า "VOTE YES" และ "CEO of Twitter"

สำนักข่าวบลุมเบิร์กรายงานว่า หลังจากเข้าครอบครองกิจการทวิตเตอร์ นายมัสก์ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทวิตเตอร์ เช่น การเลิกจ้างพนักงานกว่าครึ่ง และเรียกคืนบัญชีที่ถูกระงับไปก่อนหน้านี้ อีกทั้ง ยังมีเสียงเรียกร้องให้กลับมาสนใจเทสลา กลังจากราคาหุ้นเทสลาดิ่งลงอย่างหนักนับตั้งแต่นายมัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์เมื่อปลายเดือนต.ค. เนื่องจากนายมัสก์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับทวิตเตอร์

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้ทำการระงับบัญชีใช้งานของนักข่าวหลายคน รวมทั้งนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่างนิวยอร์กไทม์สและวอชิงตันโพสต์ โดยมีการขึ้นข้อความแจ้งว่า "บัญชีถูกระงับใช้งาน" (account suspended) ซึ่งนักข่าวที่ถูกระงับการใช้งานบัญชีทวิตเตอร์นั้นต่างก็เคยเขียนข่าวเกี่ยวกับนายมัสก์

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทวิตเตอร์กลับลำด้วยการยกเลิกการระงับใช้งานบัญชีนักข่าว หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล, กลุ่มสนับสนุน และองค์กรนักข่าวจากหลายประเทศทั่วโลก โดยบางรายระบุว่าทวิตเตอร์กำลังคุกคามเสรีภาพสื่อ

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น ทวิตเตอร์ประกาศเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) บริษัทว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ทำการโฆษณาบัญชีโซเชียลมีเดียรายอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์อีกต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเนื้อหาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น เช่น เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม

หลังจากที่นายมัสก์เข้าซื้อทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้ได้แชร์บัญชีโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของตนบนทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ประกาศว่าการโพสต์เนื้อหา เช่น "ติดตามได้ที่ @username ทางอินสตาแกรม" หรือ "username@mastodon.social" ถือเป็นการละเมิดนโยบายของทวิตเตอร์ และหากผู้ใช้ฝ่าฝืนนโยบายนี้ก็จะถูกบังคับให้ต้องลบทวีตออก โดยบัญชีผู้ใช้อาจถูกล็อกหรือถูกระงับ