ทนายความของนายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) กล่าวเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ว่า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนการพิจารณาคดีที่กำหนดไว้ในวันที่ 2 ต.ค.ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คาดไว้ในการตรวจสอบหลักฐาน และเตรียมการแก้ต่างคดีให้กับนายแบงค์แมน-ฟรีด
นายลูอิส แคปแลน ทนายของนายแบงค์แมน-ฟรีดระบุในจดหมายถึงผู้พิพากษาศาลแขวงของสหรัฐว่า อัยการกลางในแมนฮัตตันยังไม่ได้ส่งมอบหลักฐานที่รวบรวมได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนางแคโรไลน์ เอลลิสันและนายแกรี หวัง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดที่สุดของจำเลย ซึ่งทั้งคู่ยอมรับผิดและตกลงที่จะร่วมมือกับอัยการ
นอกจากนี้ ทนายความยังให้เหตุผลว่า อัยการได้เพิ่มข้อหาใหม่คือฉ้อโกงและสมคบคิดเพื่อกระทำผิดกฎหมายเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทำให้จำนวนคดีเพิ่มขึ้นเป็น 12 คดี หลังจากการล้มละลายของ FTX ในเดือนพ.ย. และนายแบงค์แมน-ฟรีดได้ถูกจับกุมตัวในเดือนต่อมา
ทั้งนี้ นายแบงค์แมน-ฟรีด ร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วจากบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งมีมูลค่าสุทธิประมาณ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และได้กลายเป็นผู้บริจาคที่ทรงอิทธิพลต่อการรณรงค์หาเสียงทางการเมืองของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินของนายแบงค์แมน-ฟรีดได้สูญหายไปในพริบตา หลังจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้เงินทุนร่วมกันระหว่าง FTX และอลาเมดา รีเสิร์ช (Alameda Research) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่นายแบงค์แมน-ฟรีดเป็นเจ้าของด้วยนั้น ได้จุดชนวนให้เกิดการแห่ถอนเงินลงทุนออกจาก FTX