รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อจำกัดใหม่ที่เข้มงวดต่อบรรดาบริษัทผลิตชิปที่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลกลางในการสร้างโรงงานในสหรัฐ โดยข้อกำหนดเหล่านั้นจะจำกัดการขยายธุรกิจของบริษัทผลิตชิปในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กฎหมาย CHIPS and Science Act มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จะจำกัดบริษัทต่าง ๆ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐ ไม่ให้ขยายกำลังการผลิตเกิน 5% สำหรับชิปขั้นสูง และไม่เกิน 10% สำหรับเทคโนโลยีรุ่นเก่า
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังร่างมาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงการจำกัดเพดานเงินลงทุนด้านการผลิตชิปที่ก้าวล้ำในจีนไว้ที่ 100,000 ดอลลาร์
ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของสหรัฐที่จะขัดขวางเป้าหมายของจีนในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในขณะที่ยังคงรักษาความมั่นคงของอุปทานชิปอันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทดาวเด่นด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ของจีน แสวงหาแนวทางในการจำกัดการเข้าถึงหน่วยประมวลผลระดับสูง และสั่งห้ามมิให้พลเมืองสหรัฐให้การช่วยเหลือใด ๆ ต่ออุตสาหกรรมชิปของจีน
ข้อจำกัดใหม่ซึ่งเชื่อมโยงกับกฎหมาย CHIPS Act นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นให้กับบริษัทต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้รับสิ่งจูงใจจากรัฐบาล ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรม อาทิ บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC), ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และอินเทล คอร์ป ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีการดำเนินงานอยู่ในประเทศจีน โดยข้อจำกัดเหล่านี้อาจขัดขวางความพยายามในการขยายธุรกิจในจีน ขณะเดียวกันก็จะทำให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในประเทศได้อย่างยากลำบากมากขึ้นด้วย