ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของแอปเปิ้ล อิงค์ (Apple Inc) เปิดเผยในวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยผลักดันอุปสงค์ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้เป็นอย่างมากในปีนี้ แต่ยังคงเน้นย้ำว่า ภาพรวมผลประกอบการธุรกิจในปีนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจโลก
นายหลิว หยางเหว่ย ประธานของฟ็อกซ์คอนน์กล่าวในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทว่า ทางบริษัทยังคงระมัดระวังตัวในปีนี้ เนื่องจากการคุมเข้มนโยบายการเงิน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนของภาวะเงินเฟ้อ แต่ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ยังคงสดใสเนื่องจากความสนใจใน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น
"ผู้คนเริ่มใช้แชตจีพีที (ChatGPT) มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะเห็นได้ว่า ตลาดสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเราคาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตลาดดังกล่าวอาจจะเติบโตขึ้นในอัตราหลักร้อยเลยทีเดียว" นายหลิวกล่าว
นายหลิวระบุว่า ฟ็อกซ์คอนน์ครองส่วนแบ่ง 40% ของตลาดเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก และมุ่งเป้าที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอีก
ในไตรมาส 1/2566 ภาคส่วนผลิตภัณฑ์คลาวด์และเครือข่ายของฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ มีสัดส่วนคิดเป็น 22% ของรายได้ทั้งหมด โดยเป็นรองแค่ภาคส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะเท่านั้น ซึ่งครอบคลุมถึงสมาร์ตโฟนที่มีสัดส่วน 56% ของรายได้
ทั้งนี้ กำไรสุทธิของฟ็อกซ์คอนน์ร่วงลง 56% ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์และลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ขณะเดียวกัน ฟ็อกซ์คอนน์ระบุด้วยว่า เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการตลอดทั้งปีของฟ็อกซ์คอนน์
ฟ็อกซ์คอนน์ต้องการประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ด้วยการเป็นผู้ผลิต iPhone ให้กับแอปเปิ้ล แต่คราวนี้ฟ็อกซ์คอนน์พยายามรุกเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าด้วยการเข้าซื้อโรงงานเก่าของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ ในเมืองลอร์ดสทาวน์ รัฐโอไฮโอ และยังได้ว่าจ้างนายจุน เซกิ อดีตผู้บริหารของนิสสัน มาเป็นผู้นำด้านรถไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ฟ็อกซ์คอนน์ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่