นายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) โดยเขาได้กล่าวหลายต่อหลายครั้งว่าเขาเชื่อว่าโมเดลเอไอ เช่นเดียวกับของแชตจีพีที (ChatGPT) นั้น คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่มีการประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
นายเกตส์กล่าวว่า การกำเนิดขึ้นของเอไออาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น ดีปเฟค (deepfake) อคติในอัลกอริทึม และการทุจริตในโรงเรียน แต่เขาคิดว่าปัญหาจากเอไอนั้นเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้
"สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเกี่ยวกับทุก ๆ สิ่งที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับความเสี่ยงของเอไอจนถึงขณะนี้ ซึ่งมีการพูดถึงอย่างมากนั่นก็คือ ไม่มีใครตอบคำถามทั้งหมดได้" นายเกตส์โพสต์ไว้ในบล็อก
"อีกสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับผมก็คือ อนาคตของเอไอนั้นไม่ได้น่ากลัวหรือสวยงามอย่างที่บางคนคิด"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การให้ความเห็นเกี่ยวกับมุมมองที่ค่อนข้างเป็นกลางในเรื่องความเสี่ยงของเอไอของนายเกตส์นั้น อาจเป็นจุดหักเหให้การถกเถียงเกี่ยวกับเอไอเปลี่ยนไปจากหัวข้อที่ตึงเครียดระดับล้างโลกไปสู่การพูดถึงกฎระเบียบที่จำกัดมากขึ้นเพื่อจัดการกับความเสี่ยงในปัจจุบัน เช่นเดียวกับที่รัฐบาลทั่วโลกต้องรับมือกับวิธีการการควบคุมเอไอและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อวันอังคาร (11 ก.ค.) สมาชิกวุฒิสภาได้รับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเอไอและกองทัพ
ทั้งนี้ นายเกตส์เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงผู้มีอิทธิพลที่สุดเกี่ยวกับเอไอและกฎระเบียบด้านไอ และเขายังคงเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์ซึ่งลงทุนในโอเพนเอไอ (OpenAI) และผสานรวม ChatGPT เข้ากับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท รวมถึงไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ