เทคอินไซต์ (TechInsights) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมชิปรายงานเมื่อวันจันทร์ (4 ก.ย.) ว่า หัวเว่ย เทคโนโลยี่ และ เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป (Semiconductor Manufacturing International Corp) หรือเอสเอ็มไอซี (SMIC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้ผลิตโปรเซสเซอร์ 7 นาโนเมตรขั้นสูง เพื่อขับเคลื่อน Mate 60 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของหัวเว่ย นอกจากนี้ สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังใช้ชิป Kirin 9000 ของ SMIC ซึ่งผลิตในประเทศจีน
Mate 60 Pro วางขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยข้อมูลสเปกที่โฆษณาระบุว่าสามารถโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมได้ แต่ไม่ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับพลังของชิปเซตภายในเครื่อง โดยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้สร้างกระแสฮือฮาอย่างมากบนสังคมออนไลน์ รวมถึงสื่อต่าง ๆ ของรัฐบาลซึ่งบางส่วนกล่าวว่าเป็นการเปิดตัวในช่วงที่นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ อยู่ในระหว่างการเยือนจีน
รายงานระบุว่า โปรเซสเซอร์นี้เป็นรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรที่ทันสมัยที่สุดของ SMIC และให้ความเห็นว่ารัฐบาลจีนกำลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปภายในประเทศ
บนสังคมออนไลน์ของจีนมีการแชร์คลิปวิดีโอการแยกส่วนสมาร์ตโฟน Mate 60 Pro และการทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งบ่งชี้ว่า Mate 60 Pro มีความเร็วในการดาวน์โหลดมากกว่าบรรดาสมาร์ตโฟนระดับท็อปที่รองรับระบบ 5G
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา สหรัฐได้จำกัดไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการผลิตสมาร์ตโฟนที่ทันสมัยที่สุด ส่งผลให้หัวเว่ยสามารถเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่รองรับระบบ 5G ได้ในจำนวนจำกัด และต้องใช้ชิปที่เก็บสำรองไว้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เทคอินไซต์เชื่อว่าหัวเว่ยกำลังวางแผนจะกลับคืนสู่อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน 5G ภายในสิ้นปีนี้ โดยใช้ความก้าวหน้าของตนเองในด้านเครื่องมือออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ ควบคู่ไปกับการผลิตชิปจาก SMIC
ด้านนายเดน ฮัตเคอสัน นักวิเคราะห์จากเทคอินไซต์กล่าวว่า การพัฒนาดังกล่าว ไม่ต่างจากการ "ตบหน้า" สหรัฐ