สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โอเพนเอไอ (OpenAI) ได้เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจในการห้ามใช้แชตจีพีที (ChatGPT) และเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) อื่น ๆ เพื่อจุดประสงค์ทางทหาร
นางแอนนา มาคานจู รองประธานฝ่ายกิจการระดับโลกของโอเพนเอไอ กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) ร่วมกับนายแซม อัลท์แมน ซีอีโอของโอเพนเอไอ นอกรอบการประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่โอเพนเอไอเริ่มต้นความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐในด้านเครื่องมือเอไอ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบโอนเพนซอร์ส
ก่อนหน้านี้จนถึงวันพุธ (17 ม.ค.) หน้านโยบายของโอเพนเอไอระบุไว้อย่างชัดเจนว่า บริษัทไม่อนุญาตให้ใช้โมเดลเอไอของบริษัทสำหรับกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การพัฒนาอาวุธ หรือการใช้งานทางทหาร และการทำสงคราม
อย่างไรก็ตาม โอเพนเอไอได้ลบรายละเอียดดังกล่าวที่อ้างอิงเกี่ยวกับการทหารออกไปแล้ว แม้นโยบายของบริษัทยังคงเน้นย้ำว่าผู้ใช้ไม่ควรใช้บริการของบริษัทเพื่อก่ออันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น รวมถึงการพัฒนาหรือการใช้อาวุธ
"เนื่องจากก่อนหน้านี้เรามีสิ่งที่เป็นข้อห้ามโดยรวมสำหรับการใช้งานทางทหารในวงกว้าง หลาย ๆ คนจึงอาจจะคิดว่าจะเป็นการห้ามการใช้งานส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งที่ผู้คนคิดนั้นก็สอดคล้องกับสิ่งที่เราปรารถนาที่จะเห็นในโลกใบนี้" นางมาคานจูระบุ
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์และการถกเถียงมานานหลายปีเกี่ยวกับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สร้างเครื่องมือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร โดยข้อถกเถียงมุ่งเน้นไปที่ข้อกังวลของผู้คนที่มีต่อพนักงานในภาคส่วนเทคโนโลยี โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเอไอ