สหรัฐต้องการให้บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น อะเมซอนดอทคอม อิงค์ (Amazon.com Inc) และไมโครซอฟต์ คอร์ป (Microsoft Corp) ตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลลูกค้าต่างชาติที่ใช้แพลตฟอร์มของทางบริษัทเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน AI โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อเสนอของคณะบริหารงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันจันทร์ (29 ม.ค.) กำหนดให้บริการคลาวด์เปิดเผยชื่อและที่อยู่ IP ของลูกค้าต่างประเทศ โดยอะเมซอนและบริษัทในเครือ รวมทั้ง กูเกิลซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบท จะต้องจัดงบประมาณเพื่อรวบรวมรายละเอียดเหล่านี้และรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย ตามร่างที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (28 ม.ค.)
หากสหรัฐบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าว ก็อาจจะขัดขวางเส้นทางหลักที่บริษัทจีนใช้เข้าถึงศูนย์ข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ที่สำคัญต่อการฝึกฝนและโฮสต์ AI นอกจากนี้ กฎเหล่านี้ยังทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์ต้องรับผิดชอบในการรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าบนบริการคลาวด์ ซึ่งไม่ต่างจากกฎการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) ในอุตสาหกรรมการเงิน
ผู้ให้บริการคลาวด์ในสหรัฐกังวลว่า ข้อจำกัดในการให้บริการผู้ใช้ในต่างประเทศนั้น อาจเสี่ยงทำให้บริษัทอเมริกันเสียเปรียบได้
ทางด้านนางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (26 ม.ค.) ว่า คณะทำงานของเธอกำลังทำงานเพื่อป้องกันภัยคุกคามความมั่นคงของชาติที่เกิดจากการพัฒนา AI โดยมุ่งเน้นเฉพาะไปที่บริษัทของจีน โดยสหรัฐพยายามจำกัดไม่ให้จีนสามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุด และจำกัดขีดความสามารถในการพัฒนา AI สำหรับการใช้งานทางทหาร