เสียวหมี่ (Xiaomi) ยักษ์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi 14 สู่สายตาชาวโลกเมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.พ.) ที่ผ่านมา ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2567 (MWC) ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เสียวหมี่ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากการก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี 2553 ด้วยการขายสมาร์ตโฟนที่มีสเปคสูงและราคาประหยัด แต่เนื่องจากการแข่งขันในตลาดทวีความรุนแรงขึ้น บริษัทจึงมองหาช่องทางเข้าสู่ตลาดไฮเอนด์ ซึ่งมียักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ลและซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาด โดยกลุ่มตลาดสมาร์ตโฟนไฮเอนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้อุตสาหกรรมโดยรวมจะเผชิญกับความท้าทายในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
การเปิดตัวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ธุรกิจสมาร์ตโฟนของเสียวหมี่เริ่มฟื้นตัว ข้อมูลของ IDC ระบุว่า ยอดจัดสมาร์ตโฟนของเสียวหมี่ปี 2566 ลดลง 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงช้ากว่าปี 2565 อย่างมาก อีกทั้งบริษัทพลิกทำกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 3/2566 หลังจากลดลงติดต่อกัน 6 ไตรมาส
อย่างไรก็ตาม เสียวหมี่ยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสมาร์ตโฟนไฮเอนด์จากแอปเปิ้ล และซัมซุง รวมถึงบริษัทคู่แข่งจากจีนอย่าง ออเนอร์ (HONOR) ซึ่งแยกตัวออกจากหัวเว่ย โดยเมื่อเดือนม.ค. ซัมซุงเซอร์ไพรส์ เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธง S24 รุ่นใหม่
นอกเหนือจากสมาร์ตโฟนแล้ว เมื่อปีที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีนได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 รวมถึงสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Smart Band 8 Pro และนาฬิกาอัจฉริยะ 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi Watch S3 และ Xiaomi Watch 2
ทั้งนี้ เสียวหมี่พยายามที่จะวางตำแหน่งในฐานะบริษัทที่ให้บริการอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคจำนวนมากที่สามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกันผ่านระบบปฏิบัติการของตัวเอง ได้แก่ HyperOS ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์มองว่ากลยุทธ์ดังกล่าวคล้ายกับแนวทางของซัมซุงและแอปเปิ้ล