นายเดมิส ฮาสซาบิส ซีอีโอ DeepMind ในเครือกูเกิล ประกาศเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) ว่า ฟีเจอร์การสร้างสรรค์ภาพใน Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI ของกูเกิล จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ฟีเจอร์ดังกล่าวถูกระงับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากผู้ใช้งานวิจารณ์ว่า AI ทำภาพประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟีเจอร์การสร้างภาพดังกล่าวเพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. ผ่าน Gemini อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ใช้บนโซเชียลมีเดียวิจารณ์ Gemini ว่าสร้างภาพบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น สร้างภาพบรรดาบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐ (U.S. Founding Fathers) เป็นคนผิวสี
"เราได้ปิดฟีเจอร์นี้เป็นออฟไลน์ไปชั่วคราวในขณะที่เรากำลังแก้ไขปัญหากันอยู่ เราหวังว่าจะสามารถนำฟีเจอร์นี้กลับมาออนไลน์โดยเร็วที่สุดภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้" นายฮาสซาบิสกล่าวในงาน Mobile World Congress ในเมืองบาร์เซโลนา พร้อมเสริมว่าฟีเจอร์ดังกล่าว "ทำงานได้ไม่ตรงตามที่เราตั้งใจไว้"
ด้านหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปิดตลาดร่วงลงถึง 4.5% ถือเป็นหุ้นที่ฉุดดัชนี S&P 500 ลงมากที่สุดเมื่อวานนี้
นับตั้งแต่ที่โอเพนเอไอเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพ.ย. 2565 กูเกิลก็ได้เร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ของตัวเองเพื่อมาแข่งกับบริษัทในเครือไมโครซอฟท์ โดยในคราวที่กูเกิลเปิดตัวแชตบอต Bard เมื่อปีที่แล้ว Bard ก็ทำพลาดโดยให้ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะในคลิปโปรโมต ส่งผลให้หุ้นกูเกิลร่วงลงถึง 9%
ต่อมา Bard เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Gemini เมื่อต้นเดือนนี้ และกูเกิลก็เปิดแพ็คเกจแบบจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนเพื่อให้คนได้ลองใช้ "Gemini Advanced" โมเดล AI ที่ทำงานได้ดีกว่าเวอร์ชันใช้ฟรี
นายบ็อบ โอดอนเนลล์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก TECHnalysis Research กล่าวว่า "เรายังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา Generative AI แต่ถ้าข้อบกพร่องหรือความไม่ถูกต้องยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง นั่นคือจุดที่ผู้คนจะเริ่มกังวลแล้ว"