เจพีมอร์แกน ธนาคารรายใหญ่จากสหรัฐ เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมภาคเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขานรับกระแสเซมิคอนดักเตอร์เฟื่องฟู ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นยังคงเผชิญกับความท้าทาย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก
"ภาคเทคโนโลยีกำลังฟื้นตัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเอเชียทำผลงานได้ค่อนข้างน่าพอใจในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมจีนได้รับประโยชน์ ส่วนเอเชียเหนือก็ได้รับประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด" บรูซ คาสมาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกนแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ภาคเทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พยายามเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ทว่าภาคเทคโนโลยีกลับชะลอตัวลงในปี 2565 และ 2566 เซ่นพิษอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนตัวลง กระทบต่ออุปสงค์ผลิตภัณฑ์ และนำไปสู่การเลิกจ้างพนักงานในท้ายที่สุด
ดีลอยท์ (Deloitte) ระบุในรายงานว่าด้วยแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปี 2567 ว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีทั่วโลกอ่อนแอลงในปี 2566 ขณะที่การเลิกจ้างเพิ่มขึ้น
"แต่ปัจจุบันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวในภาคเทคโนโลยีอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดประมาณการเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย และนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกว่าภาคเทคโนโลยีจะกลับมาเติบโตเล็กน้อยในปี 2567" ดีลอยท์กล่าวเสริม
ภาคเทคโนโลยีฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางความท้าทายอย่างต่อเนื่องที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ต้องเผชิญ "แม้เราจะเห็นการฟื้นตัวในภาคเทคโนโลยี แต่เราไม่เห็นการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในภาคส่วนที่ไม่ใช่เทคโนโลยี" ออง ซิน เบง หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐศาสตร์กลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย ประจำเจพีมอร์แกนระบุ
การเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยหนุนผู้ผลิตชิปและขับเคลื่อนการเติบโตของเทคโนโลยี
ทั้งนี้ บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ มีรายได้เพิ่มขึ้น 265% ในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 เนื่องจากอุปสงค์หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งใช้งานในการรันและฝึกแชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI)