สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า บริษัทฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ได้หารือเกี่ยวกับแผนการหมุนเวียนตำแหน่งซีอีโอ ในการยกเครื่องโครงสร้างฝ่ายการจัดการครั้งใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อบ่มเพาะคนเก่งในอนาคต
แหล่งข่าวระบุว่า แผนดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่าจากนักลงทุนที่ต้องการให้ฟ็อกซ์คอนน์เพิ่มการกำกับดูแลกิจการ โดยแยกบทบาทของซีอีโอออกจากประธานกรรมการ ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งนี้ นายหยาง หลิว ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2562
อนึ่ง ฟ็อกซ์คอนน์ หรือชื่อเดิมว่า หงไห่ พรีซิชัน อินดัสทรีส์ (Hon Hai Precision Industry Co Ltd) เป็นบริษัทอายุ 50 ปีจากไต้หวัน โดยเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิต iPhone รายใหญ่ของแอปเปิ้ล (Apple)
แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารอาวุโสของฟ็อกซ์คอนน์ได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการหมุนเวียนตำแหน่งซีอีโอมาหลายเดือนแล้ว โดยทางเลือกหนึ่งที่กำลังพิจารณาคือการมีซีอีโอ 4 คนดำรงตำแหน่งหมุนเวียนกันคนละ 6 เดือน
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากฝ่ายบริหารของฟ็อกซ์คอนน์กำลังพิจารณาว่าระบบดังกล่าวจะทำงานอย่างไร คนที่มาเป็นซีอีโอหมุนเวียนจะมีใครบ้าง มีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไร และจะทำงานร่วมกับนายหลิวอย่างไร
แหล่งข่าวรายหนึ่งคาดว่า ซีอีโอที่หมุนเวียนจะดูแลธุรกิจหลัก 6 ด้านของฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งรวมถึงสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และโทรทัศน์ แต่ไม่รวมการดำเนินงานของบริษัทในเครือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ฟ็อกซ์คอนน์ อินเตอร์คอนเนค เทคโนโลยี (Foxconn Interconnect Technology), เอฟไอเอช โมบาย (FIH Mobile) และฟ็อกซ์คอนน์ อินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต (Foxconn Industrial Internet)
แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นการสิ้นสุดระบบ "คนเดียวปกครอง" ในฟ็อกซ์คอนน์ โดยตั้งโครงสร้างที่ฝ่ายบริหารผลัดกันดูแลการดำเนินงานของฟ็อกซ์คอนน์ขึ้นมาแทน
ทั้งนี้ นายหลิวเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการและซีอีโอในปี 2562 ต่อจากนายเทอร์รี กัว มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งกิจการเมื่อปี 2517 ซึ่งก็ดำรงทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าวด้วยเช่นกัน
หุ้นฟ็อกซ์คอนน์ร่วงลงมากกว่า 3.4% แย่กว่าตลาดหุ้นไต้หวันที่ลดลงเพียง 0.05% อย่างไรก็ดี หากนับตั้งแต่ต้นปี หุ้นฟ็อกซ์คอนน์พุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 45% จากกระแสความบูมของ AI ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันบวกเพียง 16% ในช่วงเวลาเดียวกัน
เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ฟ็อกซ์คอนน์ได้คาดการณ์แนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับปีนี้ โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความต้องการเซิร์ฟเวอร์ AI