เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศคาดการณ์ผลกำไรและรายได้ไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในวันพุธ (29 พ.ค.) เนื่องจากลูกค้าใช้จ่ายผลิตภัณฑ์คลาวด์และผลิตภัณฑ์ระดับองค์กรของเซลส์ฟอร์ซลดน้อยลง ส่งผลให้หุ้นเซลส์ฟอร์ซร่วงลงกว่า 16% ในการซื้อขายหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ เซลส์ฟอร์ซคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีรายได้ราว 9.20 - 9.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับตัวเลขประมาณการจากแอลเอสอีจี (LSEG) ที่ 9.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เซลส์ฟอร์ซคาดการณ์ว่ารายได้รายไตรมาสจะเพิ่มขึ้นในอัตราเลขหลักหน่วย ซึ่งถือเป็นอัตราชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และบ่งชี้ว่าเซลส์ฟอร์ซเริ่มเติบโตชะลอตัวลงหลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาหลายปี
ขณะเดียวกัน เซลส์ฟอร์ซได้คงคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2568 แต่ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานลงสู่ระดับ 19.9% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 20.4%
การคาดการณ์ของเซลส์ฟอร์ซได้ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าปรับลดการใช้จ่ายลงเพื่อควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับเหมาะสมโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงยาวนานขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูง
ขณะที่ เซลส์ฟอร์ซรายงานกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 44% สู่ระดับ 2.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในไตรมาส 1 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 2.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เซลส์ฟอร์ซได้ทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากลงทุนในด้าน AI มาหลายเดือนแล้ว และกำลังผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับกระบวนการทำงานของผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทเพื่อกระตุ้นรายได้และผลกำไร