นางมิกิ สึซากะ ประธานบริษัทไมโครซอฟท์ เจแปน (Microsoft Japan) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งประเทศที่มีการใช้งานเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงภาคเทคโนโลยีให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
นางสึซากะกล่าวว่า การใช้ดิจิทัลในญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวกับการทำงานจากที่บ้าน (work-from-home) โดยนางสึซากะมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นตีตื้นขึ้นมาเป็นประเทศที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระดับแนวหน้าหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยตามหลังประเทศอื่น
"ญี่ปุ่นตามทันแล้ว และดิฉันคิดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตรวดเร็วขึ้นนับแต่นี้ไป เนื่องจากเทคโนโลยีเปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เรามีคนไม่พอและประชากรสูงอายุก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปัญญาประดิษฐ์รู้สร้าง (generative AI) ก็มีศักยภาพในการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจได้" นางสึซากะกล่าวกับผุ้สื่อข่าว
ทั้งนี้ นางสึซากะกล่าวว่า เธอมีความสนใจในการช่วยยกระดับทักษะให้กับแรงงานสตรีในท้องถิ่นของญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เป้าหมายของไมโครซอฟท์ เจแปน โดยทางบริษัทจะทุนมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ในอีกสองปีข้างหน้าเพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล AI ในประเทศญี่ปุ่น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คำประกาศดังกล่าวของประธานไมโครซอฟท์ เจแปน เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าดีมานด์ภายในประเทศจะปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ นางสึซากะระบุว่า ไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับรัฐบาลและธุรกิจต่าง ๆ ของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยี AI มีการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัย นอกจากนี้ เธอก็ยังมองว่า AI เป็นภาคส่วนใหม่ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการเทคโนโลยีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้