"ออราเคิล" ยอมรับธุรกิจตนเองกระทบหนัก หากสหรัฐแบน "ติ๊กต๊อก"

ออราเคิล (Oracle) บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก ยอมรับในรายงานประจำปีเมื่อวันจันทร์ (24 มิ.ย.) ว่า การแบนติ๊กต๊อก (TikTok) ในสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของออราเคิล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ให้กับติ๊กต๊อก

ออราเคิลระบุในรายงานว่า "หากเราไม่สามารถให้บริการต่าง ๆ เหล่านั้นกับติ๊กต๊อกได้ และหากเราไม่สามารถจัดการส่วนที่ขาดหายไปได้อย่างทันท่วงที รายรับและผลกำไรของเราอาจได้รับผลกระทบไปด้วย"

ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อเดือนเม.ย. เพื่อเรียกร้องให้ไบต์แดนซ์ขายกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐภายในเวลา 9 เดือน หรือ 1 ปีในกรณีที่มีการขยายเวลา หากต้องการหลีกเลี่ยงการถูกแบนในสหรัฐ

โครงสร้างการเป็นเจ้าของติ๊กต๊อกถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของความตึงเครียดในสหรัฐมาอย่างยาวนาน จากข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งข้อมูลผู้ใช้งานไปยังจีน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ข้อกังวลเกี่ยวกับติ๊กต๊อกและการที่จีนเป็นเจ้าของนั้นได้ปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่ปี 2563 ตอนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งปธน.ในขณะนั้น เขาได้ผลักดันให้ขายกิจการหรือถอนการลงทุนในสินทรัพย์ในสหรัฐ

ทั้งนี้ ติ๊กต๊อกเดินหน้าโครงการริเริ่มที่มีชื่อว่า Project Texas ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาการให้บริการติ๊กต๊อกแก่ผู้ใช้งานชาวสหรัฐ ที่ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของออราเคิลที่ตั้งอยู่ภายในประเทศ