คณะกรรมาธิการความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ (eSafety) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของออสเตรเลีย ประกาศในวันนี้ (2 ก.ค.) ว่า บรรดาบริษัทอินเทอร์เน็ตจะมีเวลา 6 เดือนในการสร้างกฎเกณฑ์เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ไม่ให้เข้าถึงสื่อลามกอนาจารและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนอินเทอร์เน็ต หากบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ได้เอง รัฐบาลจะเป็นผู้ออกกฎให้แทน
eSafety ระบุว่าได้ส่งจดหมายถึงบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมออนไลน์ให้ส่งแผนกลับมาภายในวันที่ 3 ต.ค.นี้ว่า จะมีวิธีปกป้องเยาวชนไม่ให้เข้าถึงเนื้อหารุนแรงได้อย่างไร โดยรวมถึงเนื้อหาเรื่องการฆ่าตัวตายและโรคการกินผิดปกติด้วย
eSafety กล่าวว่า กฎเกณฑ์ใหม่นี้จะครอบคลุมมาตรฐานสำหรับทั้งแอปสโตร์ เว็บไซต์ (รวมถึงเว็บโป๊และเว็บหาคู่) เสิร์ชเอนจิน โซเชียลมีเดีย บริการแชต ตลอดจนแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาเหมาะสมกับผู้ใช้หรือไม่
นางจูลี อินแมน แกรนท์ กรรมาธิการจาก eSafety กล่าวว่า "พ่อแม่ผู้ปกครองมีความกังวลมากที่เด็ก ๆ อาจเข้าถึงสื่อลามกรุนแรง แม้ผู้ปกครองเองก็ต้องช่วยดูแลด้วย ... แต่นี่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาเพียงคนเดียว อุตสาหกรรมเองก็ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างมาตรการป้องกันที่ได้ผลด้วย"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นเฟสสองที่รัฐบาลออสเตรเลียสั่งให้บริษัทในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตทำกฎกันเอง ต่อเนื่องจากกฎก่อนหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการเผยแพร่เนื้อหาก่อการร้ายและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก
มาตรการที่อาจรวมอยู่ในกฎเกณฑ์ใหม่ ได้แก่ การยืนยันอายุ ระบบควบคุมที่ผู้ปกครองตั้งไว้โดยอัตโนมัติ และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเบลอหรือกรองเนื้อหาทางเพศที่ไม่เหมาะสมออกไป
โฆษกจากกูเกิล (หน่วยธุรกิจของอัลฟาเบท) กล่าวว่าบริษัทจะร่วมมือกับทางอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดเพื่อทำกฎใหม่นี้ ขณะที่โฆษกของเมตา (เจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม) ก็กล่าวว่าบริษัทจะยังคงทำงานร่วมกับ eSafety อย่างสร้างสรรค์ต่อไป
ด้านโฆษกของ DIGI ซึ่งเป็นหน่วยงานอุตสาหกรรมที่มีบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่เป็นสมาชิกเป็นจำนวนมากและเคยช่วยทำกฎในรอบแรกมาแล้ว กล่าวว่า ทาง DIGI ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลและ eSafety ต่อไป