สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ (Delta Air Lines) เตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทคราวด์สไตรค์ (Crowdstrike) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์ระบบล่มครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งส่งผลให้คอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกประสบปัญหาขัดข้อง รวมถึงทำให้เดลตาต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เดลตาได้ว่าจ้างนายเดวิด บอยส์ ประธานบริษัทกฎหมายบอยส์ ชิลเลอร์ เฟล็กซ์เนอร์ (Boies Schiller Flexner) และทนายความชื่อดัง ให้เป็นตัวแทนในการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในครั้งนี้
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นคราวด์สไตรค์ร่วงลงถึง 5% ในช่วงการซื้อขายหลังปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29 ก.ค.) ขณะที่ราคาหุ้นไมโครซอฟท์แทบไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
เหตุการณ์ระบบล่มดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. โดยมีต้นเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ของคราวด์สไตรค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบของไมโครซอฟท์ในวงกว้าง จนทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะธุรกิจสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมสหรัฐได้ออกมาประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นกับเดลตา ซึ่งประสบปัญหาการหยุดชะงักของเที่ยวบินและการให้บริการล้มเหลวในวงกว้าง
หลังเกิดเหตุการณ์ระบบล่ม ราคาหุ้นคราวด์สไตรค์ได้ร่วงลงเกือบ 25% ภายในเวลาเพียง 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจของบริษัท
ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่า เดลตาต้องสูญเสียเงินจากเหตุการณ์ระบบล่มในครั้งนี้ไปแล้วราว 350-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงต้องรับมือกับคำร้องขอเงินคืนหรือชดเชยค่าเสียหายจากผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบอีกกว่า 176,000 ราย จากการที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปเกือบ 7,000 เที่ยว
สำหรับนายเดวิด บอยส์ นับเป็นทนายความชื่อดังที่เคยเป็นตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐในคดีฟ้องร้องไมโครซอฟท์ฐานผูกขาด และมีส่วนช่วยให้ชนะคดีที่นำไปสู่การยกเลิกกฎหมายห้ามแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้ เขายังเคยรับว่าความให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง นายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน อดีตผู้ทรงอิทธิพลในวงการฮอลลีวูด และเอลิซาเบธ โฮล์มส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเธราโนส (Theranos) ซึ่งปัจจุบันทั้งสองคนต่างต้องโทษจำคุก
ก่อนหน้านี้ บริษัทประกันภัยพาราเมทริกส์ (Parametrix) ได้ประเมินความเสียหายจากเหตุขัดข้องที่เกิดจากคราวด์สไตรค์ครั้งนี้ที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์ โดยนับเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ใน Fortune 500 และไม่นับรวมไมโครซอฟท์