คราวด์สไตรค์ (Crowdstrike) ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เปิดเผยว่า ผู้บริหารของสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ (Delta Airlines) ไม่ยอมตอบรับข้อเสนอความช่วยเหลือ หลังจากเกิดการล่มของระบบไอทีทั่วโลกเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เที่ยวบินนับพันถูกยกเลิก ทั้งยังถูกรัฐบาลกลางสอบสวนด้วย
ในจดหมายเมื่อวันอาทิตย์ (4 ส.ค.) ทนายความของบริษัทคราวด์สไตรค์ได้ขยายคำกล่าวอ้างก่อนหน้าของบริษัทที่ระบุว่า เดลตาได้ปฏิเสธความช่วยเหลือหลายครั้ง อีกทั้ง คราวด์สไตรค์ยังเสริมอีกว่า จอร์จ เคิร์ตซ์ ซีอีโอของคราวด์สไตรค์ ได้พยายามติดต่อกับเอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของสายการบินเดลตาแล้ว
"ซีอีโอของคราวด์สไตรค์ได้ติดต่อกับซีอีโอของเดลตาเป็นการส่วนตัวเพื่อให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ" ข้อความในจดหมายระบุ ซึ่งลงนามโดยนายไมเคิล คาร์ลินสกี หุ้นส่วนผู้จัดการร่วมของสำนักงานกฎหมายควินน์ เอ็มมานูเอล เออร์คูฮาร์ต แอนด์ ซัลลิแวน (Quinn Emanuel Urquhart & Sullivan)
ในแถลงการณ์ทางอีเมลอีกฉบับ คราวด์สไตรค์ระบุว่า บริษัทฯ หวังว่าเดลตาจะเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเพื่อหาข้อยุติ อย่างไรก็ดี โฆษกระบุว่า เดลตายังไม่ได้ตอบสนองใด ๆ ต่อจดหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ สายการบินเดลตาแอร์ไลน์เป็นสายการบินที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากต้องพยายามกอบกู้การดำเนินงานเที่ยวบินให้กลับมาเป็นปกติหลังจากเกิดเหตุระบบล่ม โดยเดลตาเสียเงินจากเหตุการณ์ระบบล่มในครั้งนี้ไปแล้วราว 500 ล้านดอลลาร์ เพราะยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 5,500 เที่ยวในช่วงไม่กี่วันภายหลังเกิดเหตุระบบล่ม
เหตุการณ์ระบบล่มดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. โดยมีต้นเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ของคราวด์สไตรค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบของไมโครซอฟท์ในวงกว้าง จนทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะธุรกิจสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง