หัวเว่ย (Huawei) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย เพื่อช่วยผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านคลาวด์ระดับภูมิภาค
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในการประชุมหัวเว่ย คลาวด์ ซัมมิต ไทยแลนด์ 2024 (Huawei Cloud Summit Thailand 2024) ที่กรุงเทพฯ ว่า นโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) ที่รัฐบาลไทยประกาศไปเมื่อปีที่แล้วนั้น จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการบริการสาธารณะ และส่งเสริมนวัตกรรมในทุกภาคส่วน
นายประเสริฐแสดงความเชื่อมั่นว่านโยบายดังกล่าวจะวางรากฐานให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับเน้นย้ำว่าความร่วมมือกับหัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนวิสัยทัศน์โดยรวมของระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัยและก้าวล้ำ
แจ็กเกอลีน สือ ประธานฝ่ายการตลาดและบริการจัดจำหน่ายระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญมากขึ้นกับการขยายขีดความสามารถทางเทคโนโลยีในประเทศไทย พร้อมกับรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและประสิทธิภาพการประมวลผล ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางคลาวด์ระดับภูมิภาค
เดวิด หลี่ ซีอีโอของหัวเว่ย ประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ซึ่งรวมถึงศูนย์ข้อมูล (Availability Zone) จำนวน 3 แห่งในไทย ได้ช่วยให้ลูกค้าของหัวเว่ยสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศ อีกทั้งยังลดความหน่วงของคลาวด์ทั่วประเทศเหลือเพียง 12 มิลลิวินาทีเท่านั้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา หัวเว่ยได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในไทยคิดเป็นมูลค่า 5.5 พันล้านบาท ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด และได้มีการนำเสนอเทคโนโลยีสำคัญมากมาย เช่น เกาส์ดีบี (GaussDB) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขั้นสูง และดิจิทัล แมน (Digital Man) ของเมตาสตูดิโอ (MetaStudio) ซึ่งเป็นโมเดลมนุษย์เสมือนจริงที่มีความสมจริงสูง