ลี ไค-ฟู อดีตประธานกูเกิล ไชน่า (Google China) เปิดเผยว่า โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีนอาจตามหลังโมเดลที่พัฒนาในสหรัฐฯ อย่างน้อยครึ่งปี แต่แอป AI ของจีนน่าจะพัฒนาก้าวหน้าได้เร็วกว่ามาก
ลีกล่าวในงาน AVCJ Private Equity Forum China เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 ก.ย.) ว่า โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของบริษัทชั้นนำในจีนตามหลังโมเดลของบริษัทในสหรัฐฯ อยู่ 6-9 เดือน ขณะที่โมเดลของจีนที่ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควรอาจตามหลังสหรัฐฯ ถึง 15 เดือน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ลี ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ "AI Superpowers: China, Silicon Valley, and the New World Order" เป็นผู้วิจารณ์เรื่อง AI ที่มีผู้ติดตามอย่างกว้างขวาง และเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัป 01.AI รวมถึงบริษัทร่วมลงทุนอย่าง ซิโนเวชัน เวนเจอร์ส (Sinovation Ventures)
"ผมคาดว่าแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะแพร่หลายที่จีนเร็วกว่าในสหรัฐฯ ภายในต้นปีหน้า" ลีกล่าว พร้อมเสริมว่าต้นทุนในการฝึกอบรมโมเดล AI ได้ลดลงอย่างมาก
"เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จีนจะสร้างแอป AI ที่ดีที่สุดในโลก" ลีกล่าว "แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็ก"
ลีกล่าวเพิ่มเติมว่าอาจต้องใช้เวลา 5-8 ปีในการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ให้ไปถึงอีกขึ้น ซึ่งอาจเป็น "ซูเปอร์แอป" ตัวเดียวที่สามารถทำงานหลายอย่างได้ โดยอาจต้องการอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดที่แตกต่างจากสมาร์ตโฟนที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะอุปกรณ์ที่เหมาะสมควรจะเปิดทำงานอยู่เสมอและฟังตลอดเวลา