ออราเคิล (Oracle) แถลงในวันนี้ (2 ต.ค.) ว่า บริษัทเตรียมทุ่มเงินกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้าง "คลาวด์รีเจียน" (Cloud Region) สาธารณะแห่งแรกในมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญล่าสุดของออราเคิลซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
ช่วงที่ผ่านมา บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft), อินวิเดีย (Nvidia), กูเกิล (Google) ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออัลฟาเบท (Alphabet) และไบต์แดนซ์ (ByteDance) จากจีน ต่างทยอยประกาศทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ลงทุนด้านดิจิทัลในมาเลเซียตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่บริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อตอบรับกระแสความต้องการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังมาแรง
ทั้งนี้ คลาวด์รีเจียนคือ สถานที่จริง ๆ ที่บริษัทตั้งระบบคลาวด์สาธารณะไว้ โดยการลงทุนของออราเคิลครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในการลงทุนด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน แซงหน้าอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ที่เคยประกาศทุ่มเงิน 6.2 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ออราเคิลระบุในแถลงการณ์ว่า คลาวด์รีเจียนสาธารณะที่วางแผนไว้นี้จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในมาเลเซียได้อัปเกรดแอป ย้ายงานขึ้นระบบคลาวด์ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI
แกเร็ตต์ อิลก์ รองประธานบริหารของออราเคิลประจำญี่ปุ่นและเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้จะเอื้อให้ลูกค้าของออราเคิลในมาเลเซีย ทั้งหน่วยงานรัฐ สถาบันการเงิน ตลอดจนบริษัทสายการบินและธุรกิจการต้อนรับ สามารถใช้บริการคลาวด์ที่อยู่ในประเทศ แทนที่จะต้องพึ่งพาบริการจากต่างประเทศ
"ลูกค้าเหล่านี้หวังพึ่งออราเคิลให้ช่วยหนุนนวัตกรรมของพวกเขา ... ปรับเปลี่ยนสู่กระบวนการที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น ควบคุมได้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากขึ้น" อิลก์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า คลาวด์รีเจียนในมาเลเซียจะเป็นแห่งที่ 3 ของออราเคิลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจาก 2 แห่งที่มีอยู่แล้วในสิงคโปร์ ปัจจุบันออราเคิลมีคลาวด์รีเจียนสาธารณะ 50 แห่งใน 24 ประเทศทั่วโลก
เมื่อเดือนที่แล้ว ออราเคิลได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงิน 2569 และคาดว่าจะทำรายได้ทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2572 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบริการคลาวด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ออราเคิลยังมีแผนขยายธุรกิจต่อไปทั่วเอเชีย โดยเตรียมสร้างดาต้าเซ็นเตอร์และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม "ตั้งแต่ญี่ปุ่นยันนิวซีแลนด์... ไปจนถึงอินเดีย" อิลก์กล่าว
ด้านคริส เชลเลีย รองประธานอาวุโสด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ลูกค้าของออราเคิลประจำญี่ปุ่นและเอเชียแปซิฟิกมองว่า มาเลเซียมีศักยภาพในการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจอีกมากสำหรับบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับแผนการผลักดัน AI และดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อนึ่ง ในช่วงปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ประกาศลงทุนด้านบริการคลาวด์ 1.7 พันล้านดอลลาร์ในอินโดนีเซีย ขณะที่อะเมซอนวางแผนทุ่มเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และอีก 5 พันล้านดอลลาร์ในประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) กูเกิลได้เริ่มก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนที่บริษัทคาดว่าจะสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจของประเทศได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573