ผู้บริหารระดับสูงของฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) เผยเมื่อวันอังคาร (8 ต.ค.) ว่า ฟ็อกซ์คอนน์อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในเม็กซิโก สำหรับเป็นฐานผลิตซูเปอร์ชิป GB200 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยชิปรุ่นดังกล่าวเป็นส่วนประกอบสำคัญของหน่วยประมวลผลตระกูลแบล็กเวลล์ (Blackwell) รุ่นล่าสุดของอินวิเดีย (Nvidia)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติไต้หวันผู้รับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันดับหนึ่งของโลก และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ประกอบไอโฟน (iPhone) รายใหญ่ที่สุดของแอปเปิ้ล (Apple) ได้อานิสงส์จากกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังบูมสุดขีด ด้วยการรับหน้าที่ประกอบเซิร์ฟเวอร์สำหรับประมวลผลงาน AI
"เรากำลังสร้างโรงงานผลิต GB200 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" เบนจามิน ถิง รองประธานอาวุโสแห่งกลุ่มธุรกิจโซลูชันคลาวด์เอ็นเตอร์ไพรส์ของฟ็อกซ์คอนน์ กล่าว
แหล่งข่าวจากรัฐบาลเม็กซิโกเปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวจะสร้างขึ้นในเมืองกัวดาลาฮารา
เมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา อินวิเดีย บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ประกาศว่าได้เริ่มส่งตัวอย่างแบล็กเวลล์ให้กับพันธมิตรและลูกค้าหลังจากปรับแต่งดีไซน์เสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะกวาดรายได้มหาศาลหลายพันล้านดอลลาร์จากชิปรุ่นนี้ในไตรมาสที่ 4
ถิงเน้นย้ำว่าความร่วมมือระหว่างฟ็อกซ์คอนน์กับอินวิเดียมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด พร้อมชี้ว่าตอนนี้แพลตฟอร์มแบล็กเวลล์ของอินวิเดียกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างล้นหลาม
"ความต้องการตอนนี้พุ่งทะยานสุด ๆ" ถิงกล่าวในงานเทคโนโลยีประจำปีของบริษัทที่กรุงไทเป โดยยืนเคียงข้างดีปู ทัลลา รองประธานฝ่าย AI และวิทยาการหุ่นยนต์ของอินวิเดีย
ต่อมา ยัง หลิว ประธานฟ็อกซ์คอนน์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเม็กซิโก และเผยว่ากำลังการผลิตที่นั่นจะ "มหาศาลสุด ๆ" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ฟ็อกซ์คอนน์มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในเม็กซิโกอยู่แล้ว โดยทุ่มทุนลงไปแล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรัฐชิวาวา
หลิวเผยว่า ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทพร้อมรับมือกับการปฏิวัติด้าน AI แล้ว พร้อมทั้งย้ำว่าความสามารถในการผลิตของบริษัทรวมถึง "เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวขั้นสูงและการกระจายความร้อนที่จำเป็นสำหรับรองรับโครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ GB200" ด้วย
หลิวกล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในไตรมาสนี้สดใส แม้ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ฟ็อกซ์คอนน์ประกาศรายได้ไตรมาส 3 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการเซิร์ฟเวอร์ AI พุ่งทะยาน
นอกจากนี้ ฟ็อกซ์คอนน์ยังทุ่มเทกับแผนการใหญ่ในการกระจายธุรกิจ ไม่พึ่งพาแค่การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้แอปเปิ้ล โดยหวังจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อรับจ้างผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงผลิตรถยนต์ภายใต้โมเดลของแบรนด์ฟ็อกซ์ตรอน (Foxtron) ด้วย
เมื่อถูกถามถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด EV โลกท่ามกลางความต้องการที่ชะลอตัวลง หลิวยืนยันว่าฟ็อกซ์คอนน์ยังคงมุ่งมั่นในธุรกิจนี้อย่างเต็มที่
"นี่คือทิศทางที่ถูกต้อง และเราจะไม่หยุดพัฒนาในเส้นทางนี้" หลิวกล่าว พร้อมเสริมว่าในยุค EV "กำแพงด้านเครื่องยนต์" ในการผลิตรถยนต์ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
"ผู้ผลิตรถยนต์ไม่จำเป็นต้องผลิตรถทั้งคันเองอีกต่อไป" หลิวกล่าว