ผู้ต้องสงสัยขับรถเทสลา ไซเบอร์ทรัก (Tesla Cybertruck) ที่เกิดระเบิดหน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในลาสเวกัส ช่วงวันปีใหม่ ได้ใช้แชตบอตยอดนิยมอย่างแชตจีพีที (ChatGPT) ช่วยวางแผนระเบิด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้เสียชีวิตในรถไซเบอร์ทรักคือ แมทธิว ไลฟ์เวลส์เบอร์เกอร์ อายุ 37 ปี เป็นทหารประจำการจากโคโลราโดสปริงส์ และเชื่อว่าเขาก่อเหตุเพียงลำพัง ส่วน FBI ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย
ตำรวจนครบาลลาสเวกัสเปิดเผยในวันอังคาร (7 ม.ค.) ว่า เหตุระเบิดรถไซเบอร์ทรักครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกบนแผ่นดินสหรัฐฯ ที่มีการใช้ ChatGPT มาช่วยในการทำระเบิด โดยผู้ต้องสงสัยใช้ ChatGPT เพื่อคำนวณหาปริมาณวัตถุระเบิดที่ต้องใช้ในการจุดระเบิด
ทั้งนี้ นักวิจารณ์หลายคนเคยเตือนว่าปัญญาประดิษฐ์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และเหตุระเบิดในลาสเวกัสก็ยิ่งตอกย้ำถึงข้อกังวลนี้
"สิ่งที่สำคัญและน่าจับตาคือ ขณะนี้เรามีหลักฐานชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT เพื่อช่วยวางแผนการโจมตีครั้งนี้" เควิน แม็กมาฮิลล์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลาสเวกัส แถลงข่าว "เท่าที่ผมทราบ นับเป็นครั้งแรกบนแผ่นดินสหรัฐฯ ที่มีการใช้ ChatGPT ช่วยคนสร้างอุปกรณ์บางอย่างขึ้นมา"
โอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้สร้าง ChatGPT กล่าวว่า ทางบริษัท "มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้มีการใช้เครื่องมือ AI อย่างมีความรับผิดชอบ" และ "โมเดลต่าง ๆ ออกแบบมาให้ปฏิเสธคำสั่งที่เป็นอันตราย"
"ในกรณีนี้ ChatGPT ได้ให้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้วบนอินเทอร์เน็ต และยังได้ให้คำเตือนเกี่ยวกับอันตรายหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอีกด้วย" โอเพนเอไอชี้แจงในแถลงการณ์ ตามการรายงานของสำนักข่าว Axios
FBI ระบุว่า ไม่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างเหตุการณ์คนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนคนในนิวออร์ลีนส์จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย กับเหตุระเบิดรถไซเบอร์ทรักครั้งนี้ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 ราย ทั้งนี้ FBI ยังกล่าวเสริมว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ได้มีเจตนาเป็นศัตรูหรือมุ่งร้ายต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่อย่างใด และคาดว่าน่าจะป่วยเป็นโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD)
ตำรวจเปิดเผยว่า ในโทรศัพท์ของไลฟ์เวลส์เบอร์เกอร์ พบเอกสารความยาว 6 หน้าที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งเป็นแถลงการณ์แสดงเจตจำนงในการก่อเหตุ