บลูออริจิน (Blue Origin) บริษัทจรวดของเจฟฟ์ เบซอส ประกาศเลื่อนการปล่อยจรวดนิวเกลนน์ (New Glenn) จากวันนี้ (14 ม.ค.) เป็นวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) ส่งผลให้เที่ยวปฐมฤกษ์สู่วงโคจรและการเปิดศึกชิงตลาดการปล่อยดาวเทียมกับสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ต้องเลื่อนออกไปอีกเป็นรอบที่สอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บลูออริจินระงับการปล่อยจรวดครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) หลังตรวจพบปัญหาทางเทคนิคระหว่างขั้นตอนเตรียมปล่อยจรวด
บลูออริจินประกาศผ่านเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า จะเริ่มกระบวนการปล่อยจรวดในวันพฤหัสบดีนี้ เวลา 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.00 น. ตามเวลาไทย) โดยมีกรอบเวลาปล่อย 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ การพัฒนาจรวดนิวเกลนน์ผ่านมือซีอีโอบลูออริจินมาแล้ว 3 คน และเผชิญความล่าช้าหลายครั้ง ในขณะที่จรวดฟอลคอน 9 (Falcon 9) ของสเปซเอ็กซ์ภายใต้การนำของอีลอน มัสก์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการด้วยจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และครองสถิติจรวดที่ทำการบินมากที่สุดในโลก
จรวดนิวเกลนน์ทรงพลังกว่าฟอลคอน 9 เป็นเท่าตัว และมีคิวรอปล่อยดาวเทียมจากลูกค้านับสิบราย รวมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ตามแผนแล้ว หลังจากจรวดทะยานขึ้นฟ้าได้ 10 นาที บูสเตอร์ขั้นที่หนึ่งจะแยกตัวและลงจอดบนเรือกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ขณะที่จรวดขั้นที่สองจะบินต่อสู่วงโคจร
"สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือการนำส่วนฐานกลับมาลงจอด ... แน่นอนว่าในการบินครั้งแรก ความผิดปกติอาจเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอน อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น" เบซอส ผู้ก่อตั้งบลูออริจินในปี 2543 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ก่อนการปล่อยจรวด