รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศมาตรการใหม่เพื่อสกัดกั้นชิปเทคโนโลยีขั้นสูงที่ผลิตโดยไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) และผู้ผลิตรายอื่น ไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดมาตรการที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผลักดันในช่วงโค้งสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (15 ม.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า มาตรการล่าสุดมุ่งผลักดันให้ผู้ผลิตชิปอย่าง TSMC, ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) และอินเทล (Intel) เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองลูกค้าและตรวจสอบสถานะให้ละเอียดรอบคอบยิ่งขึ้น ภายหลังจากพบว่าชิปที่ผลิตโดย TSMC ถูกลักลอบส่งให้กับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (Huawei Technologies) บริษัทสัญชาติจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำของสหรัฐฯ
กฎระเบียบใหม่ซึ่งอาจประกาศใช้เร็วสุดในวันนี้ จะต่อยอดจากมาตรการควบคุมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกที่รัฐบาลไบเดนเพิ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ซึ่งจำกัดการขายชิป AI โดยอินวิเดีย (Nvidia) และผู้ผลิตชิปขั้นสูงรายอื่น ๆ ให้แก่ดาต้าเซนเตอร์ในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก
รัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะอุดช่องโหว่ที่ทำให้ลูกค้าชาวจีนอย่างหัวเว่ยยังคงได้รับชิปขั้นสูง โดยกฎใหม่นี้จะมุ่งเป้าไปที่ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ระดับโลก เพื่อตัดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นทาง
แหล่งข่าวระบุว่า ตามร่างกฎระเบียบ ชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 14 หรือ 16 นาโนเมตรและต่ำกว่านั้น จะถูกจัดว่าอยู่ภายใต้การควบคุมแยกต่างหาก และต้องขออนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนจึงจะส่งขายในจีนและประเทศที่เกี่ยวข้องได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิปยังมีหลายช่องทางที่จะหลีกเลี่ยงข้อกำหนดนี้ได้ เนื่องจากเป้าหมายที่แท้จริงของมาตรการนี้คือการระบุตัวบริษัทจีนที่พยายามเลี่ยงกฎของสหรัฐฯ เพื่อผลิตชิปขั้นสูง
กฎระเบียบที่เสนอนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยผู้ผลิตชิประบุว่า ดีไซน์ใด จากลูกค้ารายใด ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ โดยพิจารณาจากประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ ซึ่งวัดจากจำนวนทรานซิสเตอร์ที่บรรจุอยู่ในชิปแต่ละตัว
เทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งวัดด้วยหน่วยนาโนเมตร ช่วยให้บรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ชิปที่มีค่านาโนเมตรต่ำกว่าจะมีความซับซ้อนและทรงประสิทธิภาพมากกว่า
การกำหนดเกณฑ์ที่ 14-16 นาโนเมตรจะครอบคลุมชิปจำนวนมากกว่าที่เคยถูกจัดว่าเป็นชิปขั้นสูงและอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้าในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ภายใต้ร่างกฎระเบียบใหม่ ลูกค้าที่ได้รับอนุญาตซึ่งมีชิปอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว (พิจารณาจากรายชื่อบริษัทที่ได้รับการอนุมัติ รวมถึงที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของผู้ผลิตว่าอยู่ในสหรัฐฯ ประเทศพันธมิตร หรือไต้หวัน) จะสามารถรับรองได้ว่า ดีไซน์ชิปของตนไม่อยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวหลายรายระบุว่า หากชิปมีจำนวนทรานซิสเตอร์น้อยกว่า 3 หมื่นล้านตัว และได้รับการประกอบจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ (ซึ่งจะมีการระบุในกฎ) ก็จะไม่ถือว่าเป็นชิปขั้นสูงที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาภาพรวมแล้ว เกณฑ์เหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อโปรเซสเซอร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะตัวเร่งประมวลผล AI ที่ออกแบบโดยบริษัทจีน
อย่างไรก็ดี กฎใหม่นี้มีความเข้มงวดมากกว่าที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเคยแจ้งไว้กับ TSMC โดยแหล่งข่าววงในเล่าว่า ภายหลังจากที่พบชิปของ TSMC ในอุปกรณ์ของหัวเว่ย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้สั่งให้บริษัทจากไต้หวันรายนี้ยุติการผลิตชิประดับ 7 นาโนเมตรหรือต่ำกว่าให้กับลูกค้าจีน