แอปเปิ้ล (Apple) ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์เมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.) เกี่ยวกับแอปลามกอนาจารที่เพิ่งปรากฏให้เห็นอยู่บนไอโฟนในสหภาพยุโรป (EU) โดยระบุว่า นโยบายดิจิทัลของ EU กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแอปเปิ้ล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่แอปเปิ้ลเปิดตัวแอปสโตร์ (App Store) บนไอโฟนครั้งแรกในปี 2551 แอปเปิ้ลก็เป็นผู้ควบคุมว่า แอปใดสามารถดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ได้ โดยในปี 2553 สตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอของแอปเปิ้ล กล่าวว่า การป้องกันไม่ให้มีเนื้อหาลามกอนาจารบนไอโฟนถือเป็น "ความรับผิดชอบทางศีลธรรม" ของแอปเปิ้ล และเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้แอปเปิ้ลทำหน้าที่เป็นผู้คัดกรองแอป
อย่างไรก็ตาม สถานะการเป็นผู้คัดกรองแอปของแอปเปิ้ลใน EU ได้เปลี่ยนแปลงไป หลังจากกฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act - DMA) มีผลบังคับใช้ในปี 2565 ซึ่งกำหนดให้แอปเปิ้ลต้องอนุญาตให้มีแอปสโตร์ทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อัลท์สโตร์ (AltStore) ซึ่งได้เริ่มเผยแพร่แอปชื่อ Hot Tub ที่ระบุว่าเป็นวิธีการที่เป็นส่วนตัว ปลอดภัย และสง่างามในการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่
แอปเปิ้ลระบุในแถลงการณ์ว่า "เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากแอปลามกอนาจารประเภทนี้ที่จะเกิดกับผู้ใช้งานใน EU โดยเฉพาะเด็ก ๆ แอปนี้และแอปอื่น ๆ ที่คล้ายกันจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในระบบของเรา"
AltStore เปิดเผยว่าได้รับการสนับสนุนจาก Epic Games ผู้สร้างเกม Fortnite ซึ่งเคยยื่นเรื่องร้องเรียนด้านการผูกขาดทางการค้าต่อแอปเปิ้ล โดย AltStore ระบุว่านำเงินทุนที่ได้รับไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่แอปเปิ้ลเรียกเก็บจากแอปสโตร์ทางเลือก ซึ่งทาง EU กำลังตรวจสอบเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ในกระบวนการตรวจสอบแอปสโตร์ทางเลือกนั้น แอปเปิ้ลยังคงกำหนดให้แอปต่าง ๆ ต้องผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นที่เรียกว่า "notarisation" เพื่อตรวจหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น มัลแวร์ซึ่งเป็นที่รู้จัก แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบหรืออนุมัติเนื้อหาของแอป
ด้าน AltStore ระบุว่า แอป Hot Tub ได้ผ่านกระบวนการ notarisation ของแอปเปิ้ลแล้ว และอ้างว่านั่นทำให้แอปนี้เป็นแอปลามกแอปแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติจากแอปเปิ้ล ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับแอปเปิ้ลอย่างมาก
แอปเปิ้ลระบุในแถลงการณ์ว่า "แอปเปิ้ลไม่ได้อนุมัติแอปนี้ และจะไม่มีวันนำมาเผยแพร่ในแอปสโตร์ของเรา ความจริงก็คือ เราถูกกำหนดโดยคณะกรรมาธิการยุโรปที่บังคับให้เราอนุญาตให้แอปนี้เผยแพร่ได้"