รัฐบาลอิตาลีเปิดเผยในวันพุธ (5 ก.พ.) ว่า ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 7 รายในอิตาลีตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์บนวอตส์แอป (WhatsApp) บริการส่งข้อความของเมตา แพลตฟอร์ม (Meta Platforms) พร้อมชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว "ร้ายแรงอย่างยิ่ง"
สำนักนายกรัฐมนตรีของอิตาลีระบุว่า ทางหน่วยงานได้สั่งการให้สำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (ACN) ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หลังมีรายงานว่านักข่าวคนหนึ่งและนักเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้อพยพที่มีชื่อเสียงตกเป็นเป้าหมาย
สำนักนายกฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ACN ได้รับแจ้งจากวอตส์แอปเกี่ยวกับผู้เสียหายทั้ง 7 รายที่ได้รับการยืนยันแล้วในอิตาลี ผ่านบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา
นอกจากนี้ ACN ยังเผยอีกว่า สปายแวร์ถูกพบในหมู่ผู้ใช้งานวอตส์แอปในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) อื่น ๆ ด้วย อันได้แก่ เบลเยียม กรีซ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ออสเตรีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน และสวีเดน
รอยเตอร์รายงานว่า ลูกา คาซารินี ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรการกุศล Mediterranea Saving Humans ได้รับข้อความเตือนสปายแวร์จากวอตส์แอปเมื่อวันศุกร์ (31 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เมตาออกมากล่าวหาพารากอน โซลูชันส์ (Paragon Solutions) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเฝ้าระวังว่า โจมตีผู้ใช้งานประมาณ 90 รายในหลายสิบประเทศ รวมถึงนักข่าวและนักเคลื่อนไหวอีกจำนวนหนึ่ง
ประกาศของเมตา ระบุว่า พารากอน โซลูชันส์ พยายามขโมยข้อมูลจากผู้ใช้โดยใช้เทคนิคที่ซับซ้อนซึ่งไม่ต้องการการโต้ตอบจากเป้าหมาย ซึ่งเรียกว่าการแฮกแบบ "ไม่ต้องคลิก (zero click)"
อย่างไรก็ตาม บริษัทเมตาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความที่ส่งถึงคาซารินี ขณะที่พารากอนและบริษัทแม่อย่าง เออี อินดัสเทรียล พาร์ทเนอร์ส (AE Industrial Partners) ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนในฟลอริดา ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด