เดมิส ฮัสซาบีส ซีอีโอของกูเกิล ดีปไมด์ (Google DeepMind) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) กล่าวว่า โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีนนั้น อาจเป็นผลงานที่ดีที่สุดจากจีน แต่โมเดล AI ดังกล่าวไม่ได้แสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ
เมื่อเดือนที่แล้ว DeepSeek ได้เผยแพร่งานวิจัยที่อ้างว่าโมเดล AI ของบริษัทได้รับการฝึกฝนโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าบริษัท AI ชั้นนำมาก และใช้ชิปของอินวิเดีย (Nvidia) ที่มีความทันสมัยน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ การประกาศดังกล่าวส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี AI ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และจุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงกันว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กำลังทุ่มเงินลงทุนมากเกินไปหรือไม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
ฮัสซาบิสชื่นชมโมเดลของ Deepseek ว่าเป็น "ผลงานที่น่าประทับใจ"
"ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นจากจีน" ฮัสซาบิสกล่าวในงานที่ Google จัดขึ้นที่ปารีส ก่อนการประชุม AI Action Summit ที่เมืองนี้เป็นเจ้าภาพ ซีอีโอ DeepMind ยังกล่าวด้วยว่า โมเดล AI นี้แสดงให้เห็นว่า DeepSeek สามารถทำ "งานวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมมาก" และ "เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในระดับภูมิรัฐศาสตร์" อย่างไรก็ตาม ในแง่มุมทางเทคโนโลยีนั้น ฮัสซาบิสกล่าวว่าโมเดล AI ของ DeepSeek ไม่ได้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
"แม้โมเดล AI นี้ได้สร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลก แต่ไม่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่แท้จริง ... มันใช้เทคนิคที่รู้จักกันอยู่แล้วในด้าน AI " เขากล่าว พร้อมเสริมว่ากระแสของ DeepSeek ที่เกิดขึ้นนั้น "ถูกขยายเกินจริงไปเล็กน้อย"
DeepSeek ก่อตั้งขึ้นที่เมืองหางโจวของจีนแค่เพียง 20 เดือนที่แล้ว โดยเทคโนโลยีของบริษัทได้ก่อให้เกิดกระแสความสนใจเป็นวงกว้างในเดือนม.ค.ปีนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นานหลายประเทศได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอปดังกล่าว โดยออสเตรเลียประกาศห้ามไม่ให้ใช้บริการ AI ของบริษัท DeepSeek ในระบบและอุปกรณ์ทั้งหมดของรัฐบาล ส่งผลให้ออสเตรเลียอยู่ในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ดำเนินการโดยตรงกับ DeepSeek หลังจากบริษัทสตาร์ตอัป AI ของจีนรายนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกในซิลิคอนแวลลีย์และตลาดทั่วโลกในปีนี้