มาร์ค โทเบอรอฟ ทนายความของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเทสลา (Tesla) และเอ็กซ์เอไอ (xAI) เปิดเผยในแถลงการณ์ที่ส่งให้กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) ว่า มัสก์เป็นผู้นำกลุ่มนักลงทุนในการเสนอซื้อกิจการโอเพนเอไอ (OpenAI) สตาร์ตอัปที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแชตจีพีที (ChatGPT) ด้วยมูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.)
โทเบอรอฟระบุว่า "ถึงเวลาแล้วที่โอเพนเอไอจะกลับมาเป็นองค์กรที่เปิดกว้าง เน้นความปลอดภัย และมุ่งทำประโยชน์เพื่อสังคมเหมือนเดิม"
กลุ่มนักลงทุนนี้ประกอบไปด้วย บริษัทสตาร์ตอัป xAI ของมัสก์ ตลอดจนนักลงทุนหน้าเก่าในแวดวงธุรกิจอื่น ๆ ของเขา ได้แก่ บารอน แคปิตอล กรุ๊ป (Baron Capital Group), เวเลอร์ (Valor), อาทรีเดส (Atreides), วาย แคปิตอล (Vy Capital), 8วีซี (8VC) ของโจ ลอนส์เดล และบริษัทด้านการลงทุนซึ่งนำโดยอารี เอ็มมานูเอล (Ari Emanuel) ซีอีโอของเอนเดฟเวอร์ (Endeavor)
แถลงการณ์ของโทเบอรอฟระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทโอเพนเอไอ โดยที่เงินทุนจะถูกใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจเพื่อสังคมดั้งเดิมของบริษัทโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม แซม อัลท์แมน ซีอีโอของโอเพนเอไอได้ออกมาปฏิเสธผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า "ไม่ล่ะ ขอบคุณ แต่เราสนใจจะซื้อทวิตเตอร์ในราคา 9.74 พันล้านดอลลาร์นะ หากนายสนใจ" ก่อนที่มัสก์จะตอบกลับอัลท์แมนด้วยคำว่า "นักต้มตุ๋น" ขณะที่ในการตอบกลับผู้ใช้งานรายอื่นนั้น มัสก์ก็เรียกเขาว่า "อัลท์แมนจอมหลอกลวง"
ทั้งนี้ มัสก์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังอยู่ในระหว่างการตอบโต้กันไปมาอย่างเผ็ดร้อนด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์กับอัลท์แมน เนื่องจากทั้งสองเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโอเพนเอไอในปี 2558 ซึ่งก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งเน้นการวิจัยด้าน AI
มัสก์กำลังฟ้องโอเพนเอไอโดยกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด และพยายามป้องกันไม่ให้บริษัทกลายเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร
ขณะเดียวกัน โอเพนเอไอได้ร่วมมือกับออราเคิล (Oracle) และซอฟต์แบงก์ (SoftBank) ในโครงการสตาร์เกต (Stargate) ที่ได้รับการประกาศออกมาโดยปธน.ทรัมป์หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง โดยเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสหรัฐฯ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า xAI ของมัสก์อาจควบรวมกิจการกับโอเพนเอไอ หากข้อตกลงเสนอซื้อกิจการดังกล่าวเกิดขึ้น