องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ประกาศระงับเที่ยวบินไปยังสนามบินหลายแห่งในรัฐฟลอริดาในคืนวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) หลังจากการทดสอบจรวดสตาร์ชิป (Starship) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ประสบความล้มเหลว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่สเปซเอ็กซ์ประสบปัญหาในระหว่างการทดสอบจรวดสตาร์ชิป ส่งผลให้เที่ยวบินพาณิชย์ต้องระงับการให้บินเพื่อความปลอดภัยจากเศษซากจรวดที่ร่วงลงมา
สนามบินที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยสนามบินนานาชาติไมอามี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ (American Airlines) รวมถึงสนามบินที่ให้บริการในเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล เมืองเวสต์ปาล์มบีช และเมืองออร์แลนโดในรัฐฟลอริดา
สเปซเอ็กซ์โพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า "ระหว่างที่จรวดสตาร์ชิปกำลังทะยานขึ้น ได้เกิดการแยกชิ้นส่วนอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้วางแผนไว้และขาดการติดต่อไป ทีมงานของเราได้เร่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทันที เพื่อดำเนินการตอบสนองฉุกเฉินตามที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า"
สเปซเอ็กซ์ระบุว่า บริษัทจะตรวจสอบข้อมูลจากการทดสอบในวันนี้ เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
สตาร์ชิปทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวดของบริษัทซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองบราวน์สวิลล์ รัฐเท็กซัส เมื่อเวลา 18.30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก (ET) ของสหรัฐฯ เพื่อทดสอบบินครั้งที่ 8
ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค. เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน หลังจรวดสตาร์ชิปของสเปซเอ็กซ์เกิดระเบิดกลางอากาศ และ FAA เตือนว่าอาจมีเศษซากยานอวกาศร่วงหล่นลงมา โดยในเหตุการณ์ดังกล่าว มีรายงานความเสียหายต่อทรัพย์สินสาธารณะบนหมู่เกาะเติกส์และเคคอสในทะเลแคริบเบียน
สเปซเอ็กซ์กำลังดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งก่อนเมื่อเดือนม.ค. แต่ได้รับอนุญาตจาก FAA ให้ดำเนินการทดสอบครั้งใหม่ก่อนที่การสืบสวนจะเสร็จสิ้น