ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ประกาศในวันนี้ (10 มี.ค.) ว่าได้เปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่เป็นตัวแรก และวางแผนใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการจัดการห่วงโซ่อุปทาน
บริษัทฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า โมเดลดังกล่าวมีชื่อว่า ฟ็อกซ์เบรน (FoxBrain) ซึ่งได้รับการฝึกด้วยชิป GPU รุ่น H100 ของอินวิเดีย (Nvidia) จำนวน 120 ตัว และใช้เวลาพัฒนาเสร็จสิ้นภายในประมาณ 4 สัปดาห์
ฟ็อกซ์คอนน์กล่าวว่า โมเดลนี้ถูกพัฒนาโดยใช้สถาปัตยกรรม Llama 3.1 ของเมตา (Meta) และถือเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตัวแรกของไต้หวันที่มีความสามารถในการให้เหตุผล โดยได้รับการปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบภาษาจีนตัวเต็มและภาษาไต้หวัน
ฟ็อกซ์คอนน์เสริมว่า ถึงแม้จะมีความแตกต่างในด้านประสิทธิภาพเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโมเดลของดีปซีค (DeepSeek) จากจีน แต่ประสิทธิภาพโดยรวมของฟ็อกซ์เบรนนั้นใกล้เคียงกับมาตรฐานระดับโลก
ในช่วงแรก ฟ็อกซ์เบรนถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในองค์กร โดยครอบคลุมความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูล สนับสนุนการตัดสินใจ การทำงานร่วมกันบนเอกสาร คณิตศาสตร์ การให้เหตุผลและการแก้ปัญหา รวมถึงการสร้างโค้ด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ระบุว่ามีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทางเทคโนโลยี เพื่อขยายขอบเขตการใช้งานของโมเดลนี้ แบ่งปันข้อมูลในรูปแบบโอเพนซอร์ส และส่งเสริมการใช้ AI ในภาคการผลิต การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการตัดสินใจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินวิเดียได้ให้การสนับสนุนผ่านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันอย่าง "Taipei-1" ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเกาสงทางตอนใต้ของไต้หวัน และให้คำปรึกษาทางเทคนิคระหว่างการฝึกฝนโมเดล
ทั้งนี้ ฟ็อกซ์คอนน์จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดลนี้ในงานประชุมนักพัฒนา GTC ของอินวิเดียในช่วงกลางเดือนมี.ค.