โอเพนเอไอ (OpenAI) ยื่นข้อเสนอนโยบายฉบับใหม่ โดยระบุว่า ดีปซีค (DeepSeek) แล็บ AI สัญชาติจีน เป็นบริษัทที่ "ได้รับเงินสนับสนุนและอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน" พร้อมเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาสั่งห้ามใช้โมเดล AI จากดีปซีค รวมถึงองค์กรอื่น ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีเทคครันช์ (TechCrunch) รายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "แผนปฏิบัติการ AI" ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยชี้ว่า โมเดลต่าง ๆ ของดีปซีค รวมถึงโมเดล R1 ที่มีความสามารถด้านการให้เหตุผลนั้น ไม่มีความปลอดภัย เนื่องจากดีปซีคมีพันธะตามกฎหมายจีนที่ต้องส่งมอบข้อมูลผู้ใช้ให้กับรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ โอเพนเอไอระบุว่า การห้ามใช้โมเดล AI "ที่ผลิตโดยจีน" ในประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่ม "Tier 1" ตามกฎการส่งออกของรัฐบาลโจ ไบเดน จะช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ความมั่นคง และการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
ก่อนหน้านี้ โอเพนเอไอเคยกล่าวหาดีปซีคซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักเมื่อต้นปีนี้ว่า "กลั่นความรู้" (distilling) จากโมเดลของโอเพนเอไอโดยละเมิดเงื่อนไขการให้บริการ อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาใหม่ที่ระบุว่าดีปซีคได้รับการสนับสนุนและอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีนนั้น ถือเป็นการยกระดับการโจมตีแล็บ AI จีนรายนี้
แม้จะยังไม่พบหลักฐานชัดเจนถึงความเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลจีนกับดีปซีคซึ่งแยกตัวออกมาจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ไฮ-ฟลายเออร์ (High-Flyer) แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนแสดงท่าทีให้ความสนใจดีปซีคมากขึ้น โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้งดีปซีคได้เข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง